"หมอเจี๊ยบ ลลนา" ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์การเป็นหมอด่านหน้าในฐานะหมอห้องฉุกเฉินในสถานการณ์โควิด-19 ที่เรียกได้ว่าแย่และหนักกว่าครั้งก่อนมาก โดยได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า
"วันนี้เจี๊ยบขอมาเล่าประสบการณ์ด่านหน้าให้ฟัง กันนะคะ ในฐานะหมอในห้องฉุกเฉิน เจี๊ยบคลุกคลีกับ เคสผู้ป่วยโควิดมาตลอดซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ต้อง ยอมรับว่ามันทั้งแย่และหนักมากกว่าการระบาดครั้ง ก่อนๆเป็นพันเท่าเลยค่ะ
อย่างที่ทราบกันว่าคนไข้โควิดที่อาการหนักแต่ ไม่มีเตียงต้องนอนรอเตียงกองกันอยู่ล้นหน้าห้อง ฉุกเฉิน แต่อย่าลืมว่า ที่โรงพยาบาลไม่ได้มีเฉพาะเคส โควิดอย่างเดียว ยังมีทั้งอุบัติเหตุและคนเจ็บป่วยหนัก ที่อันตรายถึงชีวิตที่ต้องเข้ารับการรักษา
ไม่กี่วันมานี้มีคนไข้อาเจียนพุ่งเป็นเลือด หัวใจ หยุดเต้น การที่หมอจะกระโดดเข้าไปช่วยชีวิตปั๊มหัวใจ ทันทีเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่สามารถทำได้ ต้องไปใส่ชุด PPE ก่อน และยังมีรายละเอียดในขั้นตอนการรักษา อื่นๆอีกหลายอย่างมากขึ้น คนทำงานก็กดดันด้วยเวลา ที่ต้องเร่งรีบและด้วยปริมาณเคส บางครั้งผู้ป่วยและ ญาติไม่เข้าใจคิดว่ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมารักษา แต่ขณะนั้นพวกเราทุกคนกำลังเตรียมความพร้อม ป้องกันเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างปลอดภัย ล่าสุดเพื่อนร่วมงานเจี๊ยบน้องพยาบาลเป็นลมในชุด PPE ระหว่างกำลังทำงาน
ห้องแยกโรคป้องกันการแพร่เชื้อ (ห้องความดัน ลบ) ที่ใช้สำหรับเคสผู้ป่วยโควิดมีจำกัด ไม่พอกับ จำนวนผู้ป่วย จนคนไข้โควิดต้องออกมานอนรักษาอยู่ ด้านนอก ทำได้เพียงเว้นระยะห่าง(ที่ไม่ห่าง)ระหว่าง เตียง ผู้ป่วยใกล้เคียงรวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ต้องเสี่ยงติด เชื้อไปตามกัน เพราะห้องแยกโรคเต็มหมด และเป็น เรื่องที่น่าเศร้ามากค่ะ เจี๊ยบเจอเคสที่คนไข้อายุ มากกว่าเจี๊ยบแค่ปีเดียวไม่มีโรคประจำตัวอื่นใดๆ แต่ก็ เป็นหนักจนเสียชีวิตลำพังบนเตียง ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ใคร ญาติพี่น้องไม่สามารถเข้ามาพบได้ ลองนึกดูว่าถ้า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของตัว เองจะทรมานใจขนาดไหน
เคสโควิดที่ป่วยหนักจนจำเป็นต้องใส่ท่อช่วย หายใจก็เกิดขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ทำงานใส่ท่อช่วยหายใจ ให้คนไข้โควิดมายังไม่มีเคสไหนเลยที่รอด ทุกครั้งที่ จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจให้ผู้ป่วยเจี๊ยบรู้สึกเศร้ามาก เพราะตัวหมอเองยังไม่รู้เลยว่าคนไข้จะมีโอกาสได้ กลับบ้านไหม ที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นคือจับมือและ บอกว่าคนไข้ว่า "เดี๋ยวหมอจะใส่ท่อช่วยหายใจให้ ตอนตื่นมาจะมีท่ออยู่ในปากนะ”
มีเคสนึง คนไข้เป็นคนขับรถแท็กซี่ คุณลุงเล่า ว่า ผู้โดยสารให้ไปส่งที่รพ. ระหว่างทางก็ถามผู้ โดยสารว่าไปส่งที่โรงพยาบาลเป็นอะไร เป็นโควิดหรือ เปล่า? ผู้โดยสารเลี่ยงไม่ตอบ คนขับก็ไม่กล้าให้ลง จากรถเห็นผู้โดยสารขึ้นมานั่งแล้วจึงไปส่งให้ถึงที่ หมาย หลังซักประวัติเสร็จไม่นานคุณลุงก็อาการหนัก จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นอีกเคสที่จากไป เจี๊ยบ ไหว้พระขออธิษฐานให้คุณลุงสงบสุขอยู่บนสวรรค์นะ คะ
สถานการณ์ในตอนนี้หนักมาก บางเคสที่เจอ อายุไม่เยอะ ไม่มีโรคประจำตัวมาก่อนก็อาจมีโอกาส อาการหนักได้ ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ เจี๊ยบขอเป็นหนึ่ง เสียงในฐานะแพทย์และประชาชนคนหนึ่ง ขอวัคซีนที่มี ประสิทธิภาพและทั่วถึงให้ประชาชนทุกคนอย่างเร็ว ที่สุดเถอะนะคะ เพราะแต่ละวินาทีที่ช้าไปคือชีวิต หมอ ทุกคนอยากเห็นคนไข้ได้กลับบ้านไปหาคนที่เค้ารัก"
ไม่อยากพลาดเรื่องเด็ด ประเด็นร้อนวงการบันเทิง ที่กำลังอยู่ในกระแส เปิดช่อง 7HD กดหมายเลข 35 ชมรายการ "เมาท์สะเด็ด 7 สี" สดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.45-15.45 น.
+ อ่านเพิ่มเติม