สรุปดราม่าแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หลัง 'เมแกน-เจ้าชายแฮร์รี' ให้สัมภาษณ์เจาะลึกถึงชีวิตในราชวงศ์
logo TERO HOT SCOOP

สรุปดราม่าแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หลัง 'เมแกน-เจ้าชายแฮร์รี' ให้สัมภาษณ์เจาะลึกถึงชีวิตในราชวงศ์

TERO HOT SCOOP : สรุปดราม่าแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หลัง เมแกน-เจ้าชายแฮร์รี ให้สัมภาษณ์เจาะลึกชีวิตในราชวงศ์ ABOLISHTHEMONARCHY,ยกเลิกสถาบันกษัตริย์,เทรนด์ทวิตเตอร์,ติดเทรนด์ทวิตเตอร์,เมแกนมาร์เคิล,เจ้าชายแฮร์รี,เจ้าชายแฮร์รี่เมแกน,เจ้าชายแฮร์รี่ลดบทบาท,เจ้าชายอาร์ชี,อาร์ชี,ทอล์กโชว์,พระราชวังบัคกิงแฮม,ราชวงศ์อังกฤษ,เหยียดสีผิว,เจ้าหญิงไดอานา,อังกฤษ,สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่2

737 ครั้ง
|
16 มี.ค. 2564
สรุปดราม่าแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หลัง 'เมแกน-เจ้าชายแฮร์รี' ให้สัมภาษณ์เจาะลึกชีวิตในราชวงศ์
 
 
สำหรับเรื่องราวที่กำลังเป็นที่จับตามองของประเทศอังกฤษ กับกระแสแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy หรือ "ยกเลิกสถาบันกษัตริย์" ที่พุ่งขึ้นไปติดเทรนด์อันดับ 3 ของประเทศ 
 
 
กระแสดราม่าในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เมแกน มาร์เคิล และเจ้าชายแฮร์รี่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์กโชว์ของ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรหญิงชื่อดัง ทางสถานีโทรทัศน์ช่องซีบีเอสของสหรัฐอเมริกา เมื่อค่ำวันที่ 7 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
 
 
เมแกนและเจ้าชายแฮร์รี่ ได้เปิดเผยเรื่องราวความลำบากเมื่อครั้งอยู่ในราชสำนักอังกฤษ และหลังออกจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ โดยเมแกนถึงกับร้องไห้ออกมาขณะให้สัมภาษณ์ เธอเคยบอกกับเจ้าชายแฮร์รี่ว่าไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว และเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย
 
 
เมแกน เล่าว่า มีอยู่คืนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังทุกข์กับความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตาย เมแกน บอกว่าเธอได้ฝืนใจตัวเองออกไปงานข้างนอกกับเจ้าชายแฮร์รี่ เพราะเธอรู้สึกว่าไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ กลัวว่าตัวเองอาจคิดสั้น
 
 
อย่างไรก็ดี เรื่องราวที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจมากที่สุดคือเรื่องโอรสของเมแกนและเจ้าชายแฮร์รี ที่ไม่ได้รับการอวยยศให้เป็นเจ้าชาย แถมยังมีราชวงศ์บางพระองค์พูดในทำนองเหยียดสีผิวโอรส 'อาร์ชี'
 
 
โดยเมแกนบอกว่า การที่อาร์ชี่ไม่ได้รับการอวยยศให้เป็นเจ้าชาย ส่งผลให้อาร์ชี่ไม่ได้รับการคุ้มกันรักษาความปลอดภัยเหมือนอย่างสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ และดูเหมือนว่าการที่อาร์ชี่ไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจเพราะเป็นพระราชปนัดดาที่มีเชื้อสายคนผิวสี
 
 
เมแกน เผยว่า ตอนที่เธอตั้งครรภ์โอรสอาร์ชี ได้มีสมาชิกราชวงศ์องค์หนึ่ง ซึ่งเมแกนไม่ได้เปิดเผยชื่อ ได้ถามเจ้าชายแฮร์รี่ในเรื่องสีผิวของโอรสอาร์ชีว่าจะมีสีผิวอย่างไร เพราะกังวลว่าอาจมีผิวสีน้ำตาลเข้ม ในขณะที่เธอยังตั้งครรภ์อาร์ชีอยู่
 
 
เมแกนยังเผยอีกว่า การเข้ามาเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษทำให้เธอรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว เธอมีเสรีภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหน แม้แต่ออกไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ เพราะเธอปรากฏตัวบนพื้นที่สื่อมากเกินไป เธอถูกบอกให้เก็บตัวอยู่เงียบๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลยเป็นเวลาหลายเดือน
 
 
ขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ ได้เปิดพระทัยหลายเรื่องเช่นกัน พระองค์ตรัสว่ารู้สึกผิดหวังเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระราชบิดา ในเรื่องของการจัดการปัญหา ทรงไม่รับโทรศัพท์ของพระองค์เลยในขณะนั้นที่เกิดปัญหามากมายขึ้น แต่ล่าสุด ตอนนี้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายแฮร์รี่ได้ทรงกลับมาพูดคุยกันแล้ว
 
 
เจ้าชายแฮร์รี่คิดว่าหาก เจ้าหญิงไดอานา พระมารดายังมีชีวิตอยู่ คงโกรธและไม่พอพระทัยในการกระทำที่สมาชิกราชวงศ์อังกฤษปฏิบัติต่อเมแกน 
 
 
นอกจากนี้่ เจ้าชายแฮร์รี่ยังเปิดเผยว่า ราชวงศ์อังกฤษได้ตัดเงินพระราชทานที่มอบให้แก่พระองค์ หลังจากพระองค์และเมแกนถอนตัวจากการเป็นสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษ ทว่าพระองค์ยังมีเงินมรดกที่เจ้าหญิงไดอานาประทานไว้ให้ หากไม่มีเงินมรดกก้อนนี้ เราก็คงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
 
 
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้มีชาวอังกฤษหลายคนรู้สึกไม่พอใจทัศนคติและการกระทำของคนในวัง คนมีชื่อเสียงหลายคนออกมาร่วมติดแฮชแท็ก #AbolishTheMonarchy ขณะที่สมาชิกสภาบางคนก็ออกมาเรียกร้องให้ทางราชวังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ราชวังมีข่าวอื้อฉาวจนประชาชนออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกสถาบันกษัตริย์
 
 
ย้อนกลับไปในปี 2019 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เคยเซ็นยอมรับคำขอให้ปิดสภาของรัฐบาล สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนมีการขุดพฤติกรรมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาแฉทางราชวัง จนเกิดเป็นแฮชแท็กในรูปแบบเดียวกันนี้มาแล้ว
 
 
ล่าสุด สำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ออกแถลงการณ์ครั้งแรก หลังมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มีการออกอากาศไปทั่วโลก ตามรายงานของรอยเตอร์ แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ระบุในวันอังคารที่ 9 มี.ค. ว่า 
 
 
"สมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์รู้สึกเสียพระทัย ที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา 
 
 
โดยประเด็นที่ถูกกล่าวถึง โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และจะต้องได้รับการหารืออย่างจริงจังภายในครอบครัว
 
 
เจ้าชายแฮร์รี, เมแกน และอาร์ชี จะยังคงเป็นที่รักยิ่งของสมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์"
 
 
ที่มา : The SunCNNDailymail