ภรรยาหลวง เรียกค่าเสียหายหญิงที่แต่งงานกับสามี 3 แสนบาท ยันยังไม่หย่ากับสามี ส่วนจะคืนดีหรือไม่อยู่ที่อนาคต
จากกรณี คุณจอย ถือใบทะเบียนสมรส เข้าไปหาสามี ซึ่งเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอก กำลังเข้าพิธีแต่งงาน ผูกข้อมือกับเจ้าสาวอีกคน ที่จังหวัดชัยนาท หลังโต้อถียงกันถูกเจ้าบ่าว ได้เชิญให้เมียหลวงออกจากงาน ระบุ คุณไม่ใช่แขกของบ้านนี้
นอกจากนี้ยังมีอีกคลิป ที่แม่ของเจ้าบ่าว ไปต่อว่าลูกชาย และตบที่ศีรษะ ต่อหน้าพระที่กำลังทำพิธีสวดมนต์ โดยที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาว ก็ยังเก็บทรงนั่งฟังพระสวดต่อไป
เมื่อวานนี้ คุณจอย มาเปิดใจในรายการโหนกระแส ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ จับได้ว่า สามีคบหากับฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นพนักงานร้านทอง ถึงขนาดไปเจอสามี ไปตามเฝ้าผู้หญิงคนนี้ที่ร้านทอง และ ไปเจออยู่ด้วยกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง
ตนเคยเตือน และ ให้ทนายความส่งจดหมายไปถึงฝ่ายหญิง ให้เลิกยุ่งกับสามี แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ฟัง แถมยังโพสต์เฟซบุ๊กยั่วยุตลอด เพื่อให้รู้ว่าอยู่กับสามีของตน และ บอกว่า ถ้าตนไม่เลิกกับสามีจะปล่อยให้ท้อง
จนสามีหลอกว่าจะไปเข้าเวร แต่ตนสังหรณ์ใจอยู่แล้ว ว่าสามีจะไปแต่งงานกับฝ่ายหญิง จึงชวนแม่สามีไปพิสูจน์ความจริง และก็เป็นอย่างที่ปรากฎในคลิป หลังเกิดเรื่องสามีได้บอกให้ลบคลิป ไม่เช่นนั้นจะฟ้องหมิ่นประมาท ทั้งนี้ตนได้จ้างทนายฟ้องเรียกค่าทดแทน 3 แสนบาท จากผู้หญิงคนนั้น ส่วนเรื่องที่ถามว่า จะเลิกกับสามีหรือไม่ ยังไม่คิด เพราะต้องห่วงความรู้สึกของลูก ๆ ด้วย
ด้านทนายความ บอกว่า ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายฝ่ายหญิง 3 แสนบาท ส่วนเรื่องอื่น ๆ อยู่ที่คนในครอบครัวจะคุยกัน
ขณะที่ต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบ พร้อมเตรียมลงโทษทางวินัย ระบุ โทษแค่กักขัง ด้านเปิดใจหลวงพ่อในพิธี บวชมา 16 พรรษา เจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก
จากคลิปดังกล่าวที่กำลังโด่งดังไปทั่ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยนาท สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมเตรียมเรียกตำรวจ และภรรยาหลวง มาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นความผิดทางวินัย
ซึ่ง พ.ร.บ.ตำรวจ แห่งชาติ พ.ศ.2547 ระบุว่า ตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น หรือชายอื่น ทั้งที่มีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว ลงโทษกักขัง 30 วัน มีภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู กักขัง 30 วัน จดทะเบียนสมรสซ้อน กักขัง 30 วัน ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป กักขัง 30 วัน
เรื่องนี้ถือว่าผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่หากทำบ่อย หลอกเอาทรัพย์สิน ใช้อำนาจหน้าที่บังคับ ถือว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ซึ่งผิดวินัยอย่างร้ายแรง ด้านโฆษก ตร. ระบุว่า ในแต่ละปีมีตำรวจถูกกักขังเพราะผิดวินัยในลักษะนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องจดทะเบียนสมรสซ้อน
ขณะที่พ่อของฝ่ายชาย ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ เผยว่า วันเกิดเรื่อง ลูกชายได้กลับมาที่บ้าน ก็ได้อบรมลูกไปว่า ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เราเป็นข้าราชการตำรวจ ต้องมีวินัย มีจริยธรรม เรื่องแต่งงานใหม่ รู้จากภรรยากับลูกสะใภ้ เจตนาลูกสะใภ้ คือ ต้องการให้ฝ่ายหญิงที่มาแต่งงาน รู้ว่าผู้ชายเขามีลูกมีเมีย มีทะเบียนสมรสอยู่ อยากให้เขาเลิกซะ นอกจากนี้ลูกสะใภ้ยังบอกว่า ทางฝ่ายโน้นเขาโพสต์ยั่วจะเอาชนะเมียหลวง จะเอาให้ได้ แต่เรื่องเขาท้องหรือไม่นั้นไม่ทราบ
ด้านพระครูสมุห์พงศ์ยศ พลญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าชัย อ.เมืองชัยนาท ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า ตอนเกิดเหตุกำลังตั้งใจสวดบทสวด เพื่อให้เกิดความขลังในพิธี ซึ่งหลับตาสวด
โดยขณะนั้นกำลังอยู่ในสมาธิ ก็ได้ยินเสียงแว่วกระทบหู ตอนแรกคิดว่าเสียงเด็กเถียงกัน แต่เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อลืมตาขึ้นมาดู ก็ตกใจ ที่แม่ฝ่ายเจ้าบ่าว มาทวงสิทธิ์ของลูกสะใภ้คนแรก แต่ในฐานะสงฆ์ จะหยุดสวดไม่ได้ บวชเรียนมา 16 พรรษา ไปงานแต่งเป็นร้อยงาน เพิ่งเจอแบบนี้ครั้งแรก ชื่นชมแม่เจ้าบ่าว ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องศีลธรรม จริยธรรม และยังไม่เข้าข้างลูกตัวเองที่ทำผิด
ล่าสุด ห้างทองเยาวราชสินทวีกรุ๊ป สถานที่ทำงานของเจ้าสาวรายนี้ ได้โพสต์ประกาศเรื่อง แจ้งว่า เจ้าสาวที่กำลังโด่งดัง ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน ของร้านตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตเข้าไปสอบถามว่า "เป็นเถ้าแก่สู่ขอจริงรึเปล่าคะ" ซึ่งทางเพจได้ระบุว่า ไม่เป็นความจริง