ในยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ เราเห็นกันแทบจะชินตากับภาพผู้คนที่ต่างจับจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนตลอดเวลาที่เรียกกันว่า “สังคมก้มหน้า” นั่นเอง จนบางคนเกิดอาการป่วยไข้จากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
วันนี้โซอี้ จะมาแนะนำให้รู้จักกับโรค FOMO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Fear of Missing Out แปลว่า ความกลัวที่จะพลาดบางสิ่งบางอย่าง หรือ โรคกลัวการตกกระแส นั่นเอง
คนที่มีพฤติกรรมนี้มักจะกลัวการตกเทรนด์ ตกข่าวฮอตร้อนแรงที่กำลังเป็นประเด็นบนโลกอินเทอร์เน็ต พฤติกรรมของกลุ่ม FOMO นั้นแทบจะทั้งกิน เล่น นอนแบบไม่นอน อ่านแต่ข้อความสมาร์ทโฟน ทุกวินาทีหยิบมือถือทุกครั้งที่แจ้งเตือน เพราะไม่อยากตกเทรนด์ หรือล้าหลังคนอื่น เราต้องรู้ก่อนใคร ซึ่งอาการแบบนี้ส่งผลทั้งสุขภาพกายและจิตใจด้วย
อาการแบบไหนเข้าข่ายเป็น FOMO
1 ใช้มือถือมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ติดโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา เรียกได้ว่า มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่เคยวางห่างกาย
2 ชาว FOMO ผู้ชื่นชาวการสื่อสารมักทนไม่ได้ที่จะตอบแชทสนทนาช้าไปแม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นหากได้ยินเสียงแชทเด้ง พวกเขาจะรีบโต้ตอบอย่างรวดเร็ว
3 ติด Social Media พลาดไม่ได้ที่จะแชร์วิถีชีวิตตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย เรียกว่าแทบจะอัพเดทชีวิตแบบเรียลไทม์
4 กลัวตกกระแสหรือรู้ข่าวช้า ติดตามข่าวสารทันเหตุการณ์ตลอด และจะเกิดอาการรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น หากไม่ทันกระแส
5 ชอบมากกับโปรโมชั่นดีลสุดพิเศษบนออนไลน์ เช่น โปรโมชั่น Deal of the day ลด 50% วันนี้เท่านั้น หรือเจอข้อความอัพเดทสถานะสินค้าคงเหลือในสต็อค เช่น ขณะนี้สินค้าที่คุณกำลังสนใจอยู่ มีอยู่ในสต็อค 3 ชิ้น หรือขายไปแล้ว 90% ยิ่งทำให้คุณรู้สึกว่า ตัวเองจะพลาดโปรเด็ดๆ และสินค้าที่เหลือน้อยเต็มที่ไม่ได้! จึงต้องรีบตัดสินใจซื้อทันที
6 ห่วงยอด like ยอดแชร์
7 หลงตัวเอง เพราะรู้สึกตัวเราเองเจ๋ง ดี ตลอดเวลา มีคนชอบเราเยอะ
8 อารมณ์แปรปรวน รับฟังคนอื่นน้อยลง
9 มีอาการคล้ายเป็นโรคซึมเศร้า อะไรที่เราเคยได้แล้วมีความสุขอยู่ตลอดพอวันนึงไม่ได้แบบที่คิดก็จะเกิดความสงสัยตัวเอง ว่าไม่ดีแล้วเหรอ เกิดความทุกข์ในจิตใจ
หากมีอาการเหล่านี้ นั่นหมายความว่าคุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่มีพฤติกรรม หรืออาการ “FOMO” ได้
+ อ่านเพิ่มเติม