สิระ ซัด ธนาธร ควรปฏิรูปตัวเองก่อน หลังครอบครัวทำเรื่องไม่โปร่งใส จี้นายกฯ สั่ง สตช.แจงปมยังไม่ดำเนินคดีน้องธนาธร ติดสินบนฮุบที่ดิน สนง.ทรัพย์สินฯ
คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำโดยนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการฯ แถลงถึงการประชุมกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบกรณีการไม่ดำเนินคดีกับ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชาย ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีเกี่ยวข้องกับคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ขอเช่าที่สำนักงานทรัพย์ส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อเลี่ยงการประมูล
โดยการประชุมเมื่อวานนี้ได้เชิญ ผอ.สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ กองบังคับการปราบปราม และอัยการเจ้าของสำนวน มาชี้แจง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ มีเพียงฝ่ายอัยการแต่ก็ไม่ใช่อัยการเจ้าของสำนวนมาด้วยตัวเอง ซึ่งอัยการที่มาชี้แจงก็พูดเสมือนว่าคดีนี้ นายสกุลธร เป็นผู้เสียหายโดนหลอกเสียด้วยซ้ำ ทั้งที่ฝ่ายผู้จ่ายเช็คและนายหน้าต้องทราบกระบวนการเช่าที่ดินดีอยู่แล้วว่าต้องผ่านการประมูล ส่วนที่อ้างว่าคดีของนายสกุลธร ทางตำรวจได้แยกสำนวนออกมาก็ไม่ชัดเจนว่าแยกมาดำเนินคดีในข้อหาอะไร มีการดำเนินคดีเพียงแค่ฝ่ายผู้รับเงิน แต่ไม่ดำเนินคดีกับผู้ให้ จึงตั้งขอสังเกตว่าเป็นความพยายามช่วยเหลือกันของทั้ง อัยการ และตำรวจหรือไม่ ดังนั้นจึงได้ทำหนังสือ เชิญนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจงต่อกรรมาธิการ พร้อมกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 27 มกราคม และมีหนังสือให้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ ส่งเอกสารชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ กรรมาธิการยังได้เชิญผู้บังคับการปราบปราม มาให้ข้อมูลอีกครั้ง หากยังไม่มาอีก กรรมาธิการจะขอไปจัดประชุมที่กองบังคับการปราบปรามแทน ให้ความสะดวก
นายสิระ กล่าวว่า คดีนี้ต้องหาความจริง เพราะมีหลักฐานการสั่งจ่ายเช็คในนามบริษัทชัดเจน ที่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้มีอำนาจในการสั่งจ่ายต้องร่วมรับผิดชอบด้วย พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันพิจารณาการกระทำของครอบครัว นายธนาธร ที่ออกมาเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ครอบครัวตัวเองพยายามเอาที่ดินทรัพย์สินฯ มาครอบครองโดยไม่ผ่านการประมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นประชาชนต้องตัดสินว่านายธนาธรควรปฏิรูปตัวเองก่อนหรือไม่ ส่วนกรณีที่อ้างว่าฝ่ายผู้จ่ายเงินไม่ทราบกระบวนการขอเช่าที่ดินนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะข้อเท็จจริงมีการตกลงจ่ายเงินกันถึง 500 ล้านบาท แล้วเงินบางส่วนที่จ่ายมาแล้วก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นค่าอะไร
พร้อมตั้งข้อสังเกตไปยัง ผอ.สำนักงานทรัพย์สินฯว่าเหตุใดไม่กล้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการเป็นเพราะกลัวจะไปขุดเจอปัญหาการทุจริตในสำนักงานทรัพย์สินฯใช่หรือไม่ เหตุใดไม่ให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
+ อ่านเพิ่มเติม