หลายพื้นที่เอาจริง จ่อดำเนินคดีกลุ่มเสี่ยงติดโควิดแต่ไม่ยอมกักตัว-ปิดบังข้อมูล
logo ข่าว..เช้าวันหยุด

หลายพื้นที่เอาจริง จ่อดำเนินคดีกลุ่มเสี่ยงติดโควิดแต่ไม่ยอมกักตัว-ปิดบังข้อมูล

ข่าว..เช้าวันหยุด : เจ้าหน้าที่รัฐเดินหน้าใช้กฎหมายเข้มงวด แจ้งความเอาผิดกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขกักตัว และเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่กักตัว,กลุ่มเสี่ยงโควิด,ตาก,แม่สอด,อ่างทอง,ปิดบังข้อมูล

410 ครั้ง
|
16 ม.ค. 2564

เจ้าหน้าที่รัฐเดินหน้าใช้กฎหมายเข้มงวด แจ้งความเอาผิดกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขกักตัว และเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ มีหลายกรณีในพื้นที่ทั่วประเทศไทย

 

ที่สุพรรณบุรี ว่าที่ ร.ต.ธีรพล โชคนำชัย นายอำเภอบ้างปลาม้า เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจาก นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 11 ของ จ.สุพรรณบุรี โดยมอบให้นายคำรณ ครื้นน้ำใจ สาธารณสุขอำเภอบางปลาม้า นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ป่วยโควิด รายที่ 11 เนื่องจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคไม่ครบถ้วนเป็นการปกปิดข้อข้อมูล

 

ว่าที่ ร.ต.ธีรพล โชคนำชัย นายอำเภอบ้างปลาม้า กล่าวอีกว่าสืบเนื่องจากนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ให้เข้มงวดเรื่องของการตรวจสอบควบคุมดูแลโรคระบาดในพื้นที่ มติที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอบางปลาม้า ได้นำเรื่องเข้าพิจารณาคณะกรรมการกรณีของผู้ป่วยรายที่ 11 โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคได้เข้าไปสอบสวนโรคเบื้องต้นผู้ป่วยให้การไม่ครบมีการปกปิดข้อมูล กรณีเข้าไปในพื้นที่ไปกี่คนไปกับใคร ผู้ป่วยไม่ยอมบอกกับเจ้าพนักงาน ทำให้เกิดความยากต่อการสืบสาวเพื่อควบคุมโรคที่กำลังระบาดทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอบางปลาม้า จึงมีมติให้ดำเนินการแจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายที่ 11 ในฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ มาตรา 47 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ประไม่เกิด 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ส่วนที่แม่สอด จ.ตาก มีชายคนหนึ่งที่อยู่ในระหว่างรอผลตรวจโควิด แต่กลับหนีออกมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ อ.แม่สอด ไปจบที่ อ.พบพระ และในที่สุดผลตรวจออกมาปรากฏว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19

 

ชายคนดังกล่าว อายุ 33 ปี บ้านอยู่หมู่ 2 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อาชีพล่ามภาษาจีน ทำงานกับกลุ่มคนที่เคยข้ามไปทำงานบ่อนคาสิโน การก่อสร้าง ในฝั่งเมียนมา ได้เข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจเชื้อโควิดจากโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่แม่สอด

 

ระหว่างที่รอผลตรวจนั้น เขาได้หนีออกมาท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ อ.แม่สอด ไปจบที่ อ.พบพระ และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับทราบจากผลการตรวจว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด จึงมีการประกาศตามตัวชายคนดังกล่าว ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้ที่พื้นที่ หมู่ 11 บ้านเงาไผ่ ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ โดยนำตัวมาทำการสอบสวนโรค หลังจากนั้น มีการประสานรถพยาบาลฉุกเฉินนำตัวไปทำการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด

 

ส่วนที่ จ.อ่างทอง มีผู้เสี่ยงสูงซึ่งมีปัญหาทางสติปัญญาไม่ยอมไปกักตัว เจ้าหน้าที่ต้องปีนขึ้นตึกแถว เพื่อเชิญไปกักตัว

 

ที่บริเวณชุมชนทรัพย์สิน ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พบผู้เสี่ยงติดเชื้อสูง 1 ราย เป็นผู้ที่มีปัญหาทางสติปัญญา แล้วได้มีน้องสาวที่เป็นผู้ป่วยโควิด 19 มาพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งทางน้องสาวที่เป็นผู้ติดเชื้อนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปทำการรักษาแล้ว

 

แต่ทางผู้เป็นพี่สาวนั้นเป็นผู้เสี่ยงสูง และมีปัญหาทางการรับรู้ เมื่อทางเจ้าหน้าที่มารับตัวเพื่อไปทำการกักตัว 14 วัน สาวคนดังกล่าวได้เข้าไปในห้องพักที่เป็นตึกแถว แล้วปิดประตูทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทอง จึงต้องปีนงัดประตูเข้าไปในห้องเพื่อทำการเจรจา ก่อนจะสามารถนำตัวขึ้นรถยนต์ไปทำการส่งที่กักตัว 14 วัน เพื่อทำการดูอาการต่อไป

 

 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pgoe7do12co

ข่าวที่เกี่ยวข้อง