ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมด่วนสถานการณ์ในเมียนมา เตรียมตั้งคณะทำงาน โดยมีกระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบหลัก
นายกฯ เรียกถกด่วน ปมเครื่องบินเมียนมา ลงจอดแม่สอด
จากกรณีรัฐบาลทหารเมียนมา ขอใช้สนามบินแม่สอด จังหวัดตาก สำหรับเที่ยวบินพิเศษของรัฐบาลเมียนมา จนนำมาสู่การตั้งคำถามจากสังคม รวมถึงฝ่ายค้านอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด วันนี้ ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผู้เข้าร่วมประชุม เช่น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
นายกฯ แจงหนุนสันติภาพเมียนมา เตรียมตั้งคณะทำงาน
หลังการประชุม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมประสาน และส่งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมาโดยเร็วที่สุด รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และพร้อมดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับไทยในด้านต่าง ๆ รวมถึงการค้าชายแดน
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการตั้งคณะทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศรับผิดชอบหลัก โดยมีเลขาธิการสำนักงานความมั่นคงทำงานร่วมด้วย เพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งประเด็นการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ
ปานปรีย์ แจงเครื่องบินเมียนมา แค่ขนเอกสาร
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า เครื่องบินโดยสารจากเมียนมา 1 ลำ ที่ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ถือเป็นปกติที่ขอมาจอดเป็นประจำ โดยเฉพาะเครื่องบินที่เป็นเครื่องบินพาณิชย์ ไม่ใช่เครื่องบินทหาร เมื่อขออนุญาตถูกต้อง ก็ออกใบอนุญาตให้บินมาในไทยได้
การมาจอดครั้งนี้ เอกอัครราชทูตของเมียนมา ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือมา เนื่องจากมีสถานการณ์ในเมียนมา และมีประชาชนได้รับผลกระทบ อาจมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือในเรื่องของมนุษยธรรม รอบแรกขอมา 3 ครั้ง เพราะคาดว่า น่าจะมีประชาชนชาวเมียนมาข้ามชายแดนมาเยอะ แต่สุดท้ายไม่มี เข้าใจว่าอาจจะมีการเจรจากันระหว่างกลุ่มที่ต่อสู้กันในพื้นที่ ที่อาจตกลงกันได้ ปกติทางการทูต ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าเอกสารอะไร เป็นความลับทางราชการ แต่ทั้งหมดนี้ ผ่านการตรวจสอบที่ชายแดนเรียบร้อย ยืนยันได้ว่าไม่มีอาวุธ ไม่มีกำลังพล ไม่มีทหาร และเดิมที่จะเดินทางเข้ามา ก็ขอยกเลิกไป ไม่ได้เดินทางเข้ามา ดังนั้น เหลือแต่เอกสารทางราชการที่ส่งกลับไป
ส่วนวันนี้ ที่นายกฯ เชิญฝ่ายความมั่นคงเข้ามา เพราะมีความเป็นห่วงว่า หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น จะเตรียมสถานการณ์รองรับได้อย่างไรบ้าง ได้รับรายงานว่าปัจจุบันนี้ มีการเตรียมแผนรองรับแล้ว น่าจะรับได้ประมาณ 100,000 คน เข้ามาในที่ปลอดภัยชั่วคราว
สุทิน ยันไม่ถึงขั้นยกระดับเข้มข้น ชายแดนไทย-เมียนมา
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายสุทิน ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด่วนสถานการณ์เมียนมากับนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามกรณีเครื่องบินของรัฐบาลเมียนมา ลงที่สนามบินแม่สอด เพื่อขนคนหรือสิ่งของ นายสุทิน บอกว่า เรื่องนี้หน่วยงานหลักคือกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งดูแลสั่งการอยู่แล้ว กระทรวงกลาโหมติดตามอย่างใกล้ชิดเท่านั้น ส่วนเครื่องบินขนคนหรือสิ่งของกันแน่นั้น ต้องไปดูรายละเอียดก่อน
ส่วนสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ตอนนี้ที่มีข่าวรัฐบาลกลางพ่ายแพ้ให้กับชนกลุ่มน้อยในหลายเมือง ถ้าสงครามหนักขึ้นก็กระทบชายแดนหนักขึ้น ดังนั้น ถ้าเปลี่ยนแปลงไปทางใดทางหนึ่งก็กระทบอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้แหล่งข่าวของตนได้วิเคราะห์ให้ฟังว่า เรื่องจริงไม่ใช่อย่างที่เรารู้ หรือเป็นข่าวเสมอไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า อาจจะเป็นการให้ข่าว เพื่อให้ฝ่ายตนได้รับประโยชน์ใช่หรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า อาจเป็นไปได้ เพราะไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกทั้งหมด ทั้งนี้ ตามแนวชายแดนมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ต้องห่วง
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ชายแดนปัจจุบันถือว่าปกติอยู่ ไม่ถึงขั้นต้องยกระดับความเข้มข้น เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และวิเคราะห์ให้ละเอียดขึ้น
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35