สรุปสถานการณ์โควิด19 ทั่วไทย ประจำวันที่ 13 ม.ค. 64
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

สรุปสถานการณ์โควิด19 ทั่วไทย ประจำวันที่ 13 ม.ค. 64

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : - โควิดในไทยติดเชื้อเพิ่ม 157 ราย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง พบผู้ติดเชื้อมากสุด สถานการณ์โควิด19ไทย,โควิดระยอง,ติดเชื้อโควิด19,สถานการณ์โควิด19

235 ครั้ง
|
15 ม.ค. 2564
- โควิดในไทยติดเชื้อเพิ่ม 157 ราย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง พบผู้ติดเชื้อมากสุด
 
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 64 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 157 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 90 ราย การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ 42 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 25 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 4 ราย และไม่ อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 21 ราย
 
รวมยอดผู้ป่วยสะสม 10,991 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 67 คน ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 6,943 ราย และผู้ป่วยที่รักษาอยู่ 3,981 ราย
 
โดยจังหวัดที่มียอดผู้ป่วยสูงสุด 10 อันดับแรกคือ 1.สมุทรสาคาร 2.ชลบุรี 3.ระยอง 4.กรุงเทพฯ 5.สมุทรปราการ 6.จันทบุรี 7.นนทบุรี 8.นครปฐม 9.อ่างทอง 10.ปทุมธานี
- เทศบาลระยอง เงินเหลือเยอะ พร้อมซื้อวัคซีนโควิดฉีดให้คนระยอง 
 
วันที่ 13 ม.ค. นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครระยอง เปิดเผยว่า โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ตนในนามนายกเทศมนตรีเทศบาลนครระยองได้ปรึกษากับ เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลตำบลเชิงเนิน เทศบาลตำบลบ้านเพ ว่าเทศบาล พร้อมและมีความสามารถที่จะซื้อวัคซีนโควิดมาทำการฉีดประชากรได้ทั้งหมด 65,000 คน คนละ 2 โดส โดสละ 500 บาท เท่ากับ 1,000 บาทต่อคน ซึ่งต้องใช้เงิน 65 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ เรามีเงินสะสม หลายร้อยล้านบาท ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน ภายใน 3 เดือนสามารถกันเงินไว้จ่ายเจ้าหน้าที่ได้ แต่การสั่งวัคซีนโควิด ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาล ต้องมี อย.ด้วย กำลังปรึกษา ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขและ ส.ส.ระยอง
 
"การทำครั้งนี้ก็เพื่อแบ่งเบาภาระรัฐบาล เพราะทราบว่าที่รัฐบาลสั่งมาสามารถฉีดประชาชนได้เพียง 42 ล้านคนอีก 28 ล้านคนไม่ได้ฉีด เทศบาลในจังหวัดระยองหลายแห่ง สามารถที่จะจ่ายเงินซื้อผ่านรัฐบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขมาฉีดให้ชาวระยองโดยตรงได้ โดยไม่ต้องรอคิว" นายวรวิทย์ กล่าว
 
- “บิ๊กตู่” ไม่ห้ามท้องถิ่น ซื้อวัคซีนโควิด-19 ฉีด ปชช. แต่ต้อง ผ่าน อย.
วันที่ 13 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ หลังที่มีผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่หลายท้องถิ่นประกาศจะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นโอกาสที่ทำได้ ซึ่งตนเปิดโอกาสให้สามารถนำเข้าวัคซีนมาได้ หากจะใช้เงินท้องถิ่นก็ถือเป็นสิทธิ์ และเป็นเรื่องของสภาท้องถิ่นจะจัดซื้อที่ไหนอย่างไรก็ว่ามา หากท้องถิ่นนำเข้ามา และผ่านมาตรฐานของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 
 
“สิ่งสำคัญหลายคนตั้งความหวังกับวัคซีนมาก รัฐบาลจำเป็นต้องหาหลายช่องทาง หลากหลายประเทศ แต่ท้ายที่สุดต้องผ่านมาตรฐาน อย. ถ้ายังไม่ผ่านเราต้องระมัดระวังที่สุดในเรื่องของผลค้างเคียงอะไรต่างๆ เยอะแยะ” 
 
“วันนี้เป็นที่น่ายินดีว่าวัคซีนที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ส่วนอื่นๆ ก็ยังต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่เราก็เชื่อมโยงไว้หมด ไม่ว่าจะของใครก็ตาม และตนคิดว่าการผลิตวัคซีนจะมีมากขึ้น และต้องดูว่าประเทศต้นทางรับรองมาตรฐานหรือเปล่านั่นคือประเด็นสำคัญ ตนจะต้องตัดสินใจตรงนี้ แม้เราจะมีวัคซีนเข้ามาก็ตาม ก็ต้องเร่งรัดการรับรองมาตรฐานจะทำอย่างไร ซึ่งต้องระมัดระวังผลกระทบข้างเคียงของประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
 
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้อากาศเย็นต้องใส่เสื้อให้อุ่นๆ ใครที่ตัวใหญ่อยู่แล้วคงไม่เป็นไร ตัวผอมๆ ก็ต้องระวัง และก็ต้องระวังเรื่องฟืนไฟด้วย ต่างจังหวัดอุณหภูมิช่วงเช้าทราบว่าอยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส อีสานประมาณ 11 องศาเซลเซียส ภาคเหนือคงจะแย่หน่อยช่วงนี้อากาศเย็น อากาศจากจีนเข้ามาปกคลุม ต้องดูกรมอุตุนิยมวิทยาด้วย หากซื้อเสื้อหนาวเก่ามาต้องนำมาซักหรือต้มก่อน บางคนจุดเตาถ่านในห้องนอนต้องระวัง เพราะอาจจะไฟไหม้บ้านได้ ปัญหาทุกปัญหาต้องแก้ด้วยตัวเราเองก่อน มันเริ่มจากตัวตนของคนทุกคน ถ้าช่วยกันประเทศชาติจะไปข้างหน้าอีกเยอะ ขอร้องเถอะ ขอบคุณสวัสดี
 
- "หมอเอกภพ" ส.ส.ก้าวไกล ชี้ ไม่ใช่ภาระท้องถิ่น จัดหาวัคซีนโควิด-19 เอง
ขณะที่ นายเเพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคก้าวไกล แสดงความเห็น ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งสนใจจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับคนในพื้นที่ได้ ซึ่งเราสรุปใจความสำคัญมาให้ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องดี และอยู่ในวิสัยของกรอบระเบียบกฎหมายที่จะทำได้ แต่มีประเด็นที่ต้องคำนึงถึงอยู่บ้าง คือ การจัดซื้อวัคซีนแบบแยกซื้อ ย่อมจะส่งผลต่อราคาวัคซีนที่จะแพงกว่าการจัดซื้อรวม 
 
ในขณะที่วัคซีนชนิดอื่น รัฐได้รวบการจัดซื้อโดยใช้ข้ออ้างในเรื่องราคา แล้วทำไมวัคซีนโควิดถึงไม่ได้มีการพูดถึงเหตุผลข้อนี้ และการจัดซื้อโดย อปท. ที่มีความพร้อมด้านงบประมาณนั้นแน่นอนว่า จะไม่ได้มีทุก อปท. ที่มีความพร้อม
 
โดยรัฐบาลควรต้องตั้งเป้าหมายการจัดหาและฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 100% โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดหา 
 
นอกจากนี้ นายแพทย์เอกภพ ยังแสดงความกังวลอีกว่า วัคซีนที่มีหลายชนิดจะมีการแบ่งการจัดซื้อและแบ่งการฉีดอย่างไร ในส่วนวัคซีนของ Sinovac ที่ยังไม่มีการรายงานผลการทดลองในชั้นคลินิกเฟส 3 เลย และล่าสุดมีข่าวว่าบางประเทศไม่พอใจผลของการทดลองวัคซีนนี้เพราะมีประสิทธิภาพเพียง 50.4% เท่านั้น (อ้างอิง https://www.bbc.com/news/world-latin-america-55642648 ) แต่จะมีการนำเข้ามาใช้ในเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เราจะมีระบบการอนุมัติแบบพิเศษจาก อย. อย่างไร? 
 
ประเด็นนี้ทางรัฐบาลไทยจะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างชัดเจนเพื่อให้สาธารณชนได้วางใจได้ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่ารัฐบาลสอบตกในประเด็นนี้
 
 
 
 
รับชมผ่านยูทูปที่ได้ที่ : https://youtu.be/kk_0GLHLEtw