- ศบค.ย้ำใครติดเชื้อโควิดไม่มีแอป หมอชนะมีความผิด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในการประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีการหารือกันว่า ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 17) ที่ออกมา ในข้อ 1 มีการยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรคให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยสนับสนุนให้มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่น "หมอชนะ" ควบคู่แอปพลิเคชั่น "ไทยชนะ"
ทั้งนี้ หากใครที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วพบว่า ไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชั่น หมอชนะ จนสร้างความยุ่งยากในการสอบสวนโรค ถือว่ามีความผิด โดยมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากจงใจปกปิดข้อมูลเดินทางปกปิดไทม์ไลน์ ถือว่ามีความผิดด้วย
"ทั้งนี้รัฐบาลสนับสนุนให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทางลดโรค เน้นถ้าท่านป่วยและมีการโหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ ก็จะไม่มีความผิด แต่ถ้าไม่มีแอปฯไทยชนะ หมอชนะ ในการตรวจหาไทม์ไลน์ของโรค ก็จะมีความผิด เพราะที่ผ่านมา มีหลายครั้ง เราไม่สามารถที่จะติดตามไทม์ไลน์ออกมาได้ เพราะฉะนั้น “หมอชนะ” จะเป็นคำตอบในการระบาดระลอกนี้ " โฆษก ศบค. กล่าว
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ นพ.ทวีศิลป์ ได้มีการกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวออกไป ก็ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขว้าง หลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นคนเฒ่าคนแก่ คนที่ไม่มีเงินซื้อสมาร์ทโฟน ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคนเหล่านี้เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี หรืออินเตอร์เน็ต พวกเขาจะทำอย่างไร คนเหล่านี้จะต้องมีความผิดตามกฎหมายด้วยหรือ
- โฆษกรัฐบาลแจงความจำเป็น “หมอชนะ” ชี้ เจตนาปกปิดข้อมูลผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 7 ม.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ว่า ผู้ที่ไม่ได้โหลดแอปฯ หมอชนะ ไม่ได้มีความผิดในลักษณะที่จะดำเนินการ แต่ถ้าประชาชนมีสมาร์ทโฟนแล้วไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะอาจจะต้องถูกสอบถามไทม์ไลน์เพิ่มเติมมากขึ้น ซึ่งทำให้เสียเวลา
ส่วนประชาชนที่มีแอปฯ หมอชนะ จะช่วยเจ้าหน้าที่เข้าถึงเรื่องข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น และหากมีการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงก็จะได้รับการแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็ว และหากพบว่าพยายามที่จะปกปิด หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงก็จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ในส่วนที่ ศบค. แถลงว่าใครไม่มีแอปฯ หมอชนะ จะถือว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น โฆษกรัฐบาล ตอบว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค. 2564) น่าจะมีการสร้างความเข้าใจเพิ่มเติมลักษณะที่ได้ชี้แจงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน พร้อมย้ำว่า ผู้ที่มีความจำเป็นและต้องการเดินทางระหว่างจังหวัดแนะนำให้โหลดแอปฯ หมอชนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ว่าไปพื้นที่เสี่ยงใน 14 วันมาหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบไทม์ไลน์ได้เร็วขึ้น และขอให้เดินทางเท่าที่มีความจำเป็นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายอนุชา ระบุด้วยว่า ขอประชาชนไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลต่างๆ จะทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เพราะทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีการกำหนดเวลาในการลบข้อมูลออก
- "หมอทวีศิลป์" ขออภัย หากปชช.ไม่มีแอปฯ "หมอชนะ" ใช้บันทึกแทนได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.10 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. โพสต์เฟซบุ๊กแฟนเพจ More ทวีศิลป์ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กที่เจ้าตัวใช้งานว่า “แอปหมอชนะใช้เข้มข้นใน 28 จังหวัด แต่ไม่มีก็ใช้บันทึกแทนได้”
“ขออภัยครับหากทำให้เข้าใจผิดว่าไม่มีแอปถึงติดคุก..ในข้อความเต็มคือหากท่านติดเชื้อ และปิดบังข้อมูล..รวมถึงไม่พบแอปหมอชนะมีความผิดตามข้อกำหนดครับ” นายแพทย์ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. โพสต์
- ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
นอกจากนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. ยังระบุอีกว่า ในการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ที่มีการติดเชื้อสูงมาก ต้องมีมาตรการคุมเข้ม ควบคุมเส้นทางคมนาคม การเข้าออกทั้งหมด คนสะอาดที่ไม่ติดเชื้อไม่ให้เข้าไป คนติดเชื้อก็ให้อยู่ในพื้นที่ คนในพื้นที่ที่ไม่ติดเชื้อก็ให้อยู่ในพื้นที่นั้น อย่าออกมา ต้องมีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด
ส่วนบุคคลที่จะเดินทาง ต้องมีการแสดงเอกสารที่หน่วยงานรัฐออกให้ อันนี้ต้องขออภัยที่ต้องสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน
- เปิดตัวอย่างหนังสือรับรอง ขออนุญาตเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด
สำหรับ 5 จังหวัด (สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด) ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด ได้มีการเพิ่มมาตรการคือ ผู้เดินทางจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่นๆ ควบคู่กับการแสดงเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.
ทั้งนี้ ในตัวเอกสารก็จะมีช่องให้กรอกข้อมูลจำเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ท่านอยากเดินทางไปที่ไหน, ท่านเดินทางมาจากไหน, ท่านมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเดินทาง, ประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื้อ, ประวัติเดินทางไปสถานที่เสี่ยง
- ผ่าม! มีคนรีบจัดโต๊ะบาคาร่าหล่น แชร์ว่อนเน็ต
จากกรณีมีผู้แชร์ภาพในโลกออนไลน์มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้นำเอาภาพของโต๊ะแทงบาคาร่า ที่ตกอยู่กลางถนนย่านลาดกระบัง โดยเจ้าของโพสต์ ได้พูดว่า “หล่นต่อหน้าต่อตา มันคือๆๆๆๆ เก็บด่วนพี่ มาเป็นคันรถ รีบจ๊าด 555 มันคือโต๊ะอะไรน่า” แล้วมีการนำภาพไปเผยแพร่ต่อ โดยบริเวณที่โต๊ะคาบาร่าหล่านนั้น อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามซอยฉลองกรุง นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น.3 มีการสืบทราบว่า โต๊ะบาคาร่าที่หล่นจากรถมีภาพออกมานั้น มีการขนมาจากเขตปริมณฑล นำมาจากไหนนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีการนำอุปกรณ์ลักลอบเล่นการพนันมาซุกซ่อนบริเวณโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่สน.ฉลองกรุง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นเตรียมเข้าตรวจสอบบริเวณโกดังดังกล่าว