เปิดเทคนิค ขอสินเชื่อแบงก์ ยื่นอย่างไรให้ผ่านฉลุยภายในรอบเดียว
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

เปิดเทคนิค ขอสินเชื่อแบงก์ ยื่นอย่างไรให้ผ่านฉลุยภายในรอบเดียว

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : การกู้เงินจากทางธนาคารหรือการขอสินเชื่อ ทั้งในการทำเรื่องซื้อบ้าน หรือเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ถือเป็นหนึ่งเรื่องที ขอสินเชื่อ,สินเชื่อ,ขอสินเชื่อธนาคาร,กู้เงินซื้อบ้าน,กู้เงินจากธนาคาร,ยื่นกู้

1,322 ครั้ง
|
11 ธ.ค. 2563
การกู้เงินจากทางธนาคารหรือการขอสินเชื่อ ทั้งในการทำเรื่องซื้อบ้าน หรือเป็นทุนในการประกอบอาชีพ ถือเป็นหนึ่งเรื่องที่หลายคนกังวลใจ ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ หลายคนเกิดความกังวลว่าถ้ายื่นไปแล้ว จะถูกปฏิเสธ ไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการขอสินเชื่อ ต้องทำแบบไหนถึงจะได้ใจธนาคาร อนุมัติเงินก้อนให้เราได้สมความตั้งใจ มีดังนี้
 
ก่อนอื่นเราต้องประเมินรายได้ของตัวเองว่า เรามีรายรับเท่าไร รายจ่ายเท่าไร และมีความสามารถในการผ่อนชำระได้เท่าไร โดยที่ต้องไปขอกู้ในวงเงินที่เกินตัว เกินกำลังของเราจนเกินไป เพราะเราอาจอยู่ในภาวะที่ตึงเกินไป จนทำให้ประสบปัญหาผ่อนไม่ไหวในระยะยาวได้
 
จากนั้นควรสร้างประวัติทางการเงินให้สวยงาม โดยต้องเริ่มจากการทำตัวเลขในสมุดบัญชีธนาคารให้ดูดีสักหน่อย งานนี้คนเป็นพนักงานประจำจะได้เปรียบคนทำงานอิสระสักหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะประกอบอาชีพไหน ก็ควรมีรายได้มากกว่ารายจ่าย มีการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะยื่นกู้สัก 3-6 เดือน ควรให้มีเงินคงเหลือติดบัญชีอยู่บ้าง อย่าทำให้บัญชีแห้ง ไม่ควรกดเงินออกมาทั้งหมด 100% ทันทีที่เงินเดือนออก เรียกว่า เงินเดือนเข้าปุ๊ป ก็กดออกหมดปั๊บ จะทำให้การเดินบัญชีไม่สวยเท่าที่ควร ซึ่งทางธนาคารอาจเห็นถึงพฤติกรรมการใช้เงินของเรา 
 
มีเทคนิคอีกนิดว่า ก่อนยื่นกู้ 3 เดือน ไม่ควรรีบไปผ่อนสินค้าใดๆ จะผ่อน 0% ก็ไม่ควร เพราะจะตัดโอกาสในการได้วงเงินตามเป้าหมาย
 
นอกจากนี้ต้องเช็กเครดิตบูโรของเราให้เรียบร้อย หากติดปัญหาต้องรีบแก้ไข เคลียร์หนี้ ปิดข้อบกพร่องต่างๆให้เรียบร้อย เพื่อทำประวัติการเงินของเราให้ดูดี เพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติที่มากขึ้น ยิ่งเคลียร์หนี้ให้หมดก่อน 3-6 เดือนจะดีมาก เพราะระยะเวลาดังกล่าว แบงก์ต่างๆ จะส่งรายงานให้เครดิตบูโร โชว์ว่าหนี้เคลียร์เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเพิ่งไปเคลียร์ก่อนยื่นกู้ไม่กี่วัน ยังไม่มีการโชว์ข้อมูล ก็จะทำให้ประวัติของเราไม่สวยงามเท่าที่ควร
 
ขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจสอบเอกสารสำคัญในการยื่นขอสินเชื่อให้ครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น
 
เอกสารส่วนตัว
– บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
– ทะเบียนบ้าน
– สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า
– สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี)
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส(หากมี)
 
เอกสารแสดงรายได้
กรณีอาชีพประจำ
– หนังสือรับรองเงินเดือน
– สลิบเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
– Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
– หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)
 
กรณีอาชีพอิสระ
-Statement เงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
-หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)
-สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนพาณิชย์/ทะเบียนบริษัท/ทะเบียนนิติบุคคล
-หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
-ภาพถ่ายกิจการ 3-4 ใบ
-สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
-สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสั่งซื้อสินค้า
-หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)
 
ซึ่งการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเราเตรียมเอกสารไม่ครบ ยิ่งทำให้ขั้นตอนการอนุมัติต่างๆล่าช้า หรือไม่ผ่านเลยก็เป็นได้ ซึ่งหากเราถูกปฏิเสธแล้วรอบนึง การขอสินเชื่อรอบต่อไปจะยิ่งทำให้ยากมากขึ้นด้วย
 
ทั้งนี้การอนุมัติสินเชื่อ ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลมาค้ำประกัน โดยเราต้องมองหาหลักทรัพย์ที่เหมาะสม เช่น บัญชีเงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือมาค้ำประกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติได้มากขึ้น หรือจะเลือกประเภทสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เราได้รับอนุมัติได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีธนาคารออกสินเชื่อประเภทต่างๆ ออกมามากมาย เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก เพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้รอดไปด้วยกันโดยเฉพาะในยุคโควิดเช่นนี้ 
 
ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/svWg3V8ze5c

ข่าวที่เกี่ยวข้อง