หมอศิริราชเตือนโควิด 'ท่าขี้เหล็ก' แพร่เร็วกว่า 'อู่ฮั่น' - ครม.ไฟเขียวรับ นทท.ทุกชาติ แต่ต้องกักตัว 14 วัน

796 ครั้ง

09 ธ.ค. 2563

แชร์ข่าวไปที่

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย วันที่ 8 ธันวาคม 2563 พบผู้ป่วยภายในประเทศ 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นบุคลาการทางการแพทย์

สำหรับผู้ติดเชื้อ 4 รายในประเทศ ทั้งหมดประกอบอาชีพพยาบาล และเป็นเพื่อนกับผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพยาบาลเช่นเดียวกัน โดนคนแรกเป็นหญิงไทย อายุ 40 ปี เป็นพยาบาลที่สถานที่กักตัวทางเลือก เริ่มป่วยและพบเชื้อในวันที่ 4 ธ.ค.

คนต่อมาเป็นหญิงไทยอายุ 32 ปี เป็นพยาบาลที่สถานที่กักตัวทางเลือก เริ่มป่วยและพบเชื้อในวันที่ 5 ธ.ค. อีกคนเป็นหญิงไทยอายุ 25 ปี เป็นพยาบาลที่หอผู้ป่วยแยกโรคโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เริ่มป่วย 29 พ.ย. ก่อนที่จะตรวจพบเชื่อวันที่ 5 ธ.ค. และคนสุดท้ายเป็นชายไทยอายุ 27 ปี รายนี้ไม่มีอาการ เป็นพยาบาลห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งและทำงานที่สถานที่กักตัวทางเลือก พบเชื่อวันที่ 5 ธ.ค.

ส่วนมี่จังหวัดเชียงราย พบผู้ติดเชื้อนอกสถานที่กักตัวของรัฐอีก 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 21 ปี ซึ่งลักลอบเข้าประเทศมาพร้อมกับผู้ป่วยที่ราขบุรีก่อนหน้านี้ เบื้องต้นพบว่า เมื่อมาส่งเพื่อนที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงแล้ว กลับไปซ่อนตัวที่บ้านพักจนทราบข่าวว่าเพื่อนติดเชื้อ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย แล้วพบว่าติดเชื้อ

ซึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังพบผู้ติดเชื้อที่ข้ามจากท่าขี้เหล็กอีก 7 คน นอกเหนือจากที่กระทรวงสาธารณะสุขแถลง แต่ทั้งหมดข้ามแดนมาอย่างถูกต้อง และถูกกักตัวเฝ้าระวังโรคอยู่

ขณะที่ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนลาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้แถลงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกว่าขณะนี้ยังคงเป็นขาขึ้น โดยทุก 3 วันจะมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน และสายพันธุ์ที่พบในเมียนมาจะเป็นสายพันธุ์ G ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์ที่ระบาดที่อู่ฮั่น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ D

โดยสายพันธุ์ G ในเมียนมา มีหลักฐานระบุชัดว่า สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่ยังไม่สามารถระบุว่ามีความรุนแรงของโรคที่จะทำให้อัตตราการเสียชีวิตเพิ่มสูง แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นและพบว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้

อย่างไรก็ตามพบว่า การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่เกิดในตอนนี้ยังเกิดในกลุ่มผู้สัมผัสเสียงสูง จากกลุ่มบุคคลที่เดินทางกลับจากเมียนมา ยังไม่ถือว่าเป็นการระบาดรอบที่สอง ขอให้ประชาชนเข้มงวดในมาตรการป้องกันควบคุมโรค เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าผู้เดินทางกลับจากจังหวัดพักขี้เหล็ก ประเทศเมียนมามีกี่ราย และเดินทางไปยังจุดใดบ้าง

พร้อมกันนี้ ทาง ศ.ดร.นพ. ประสิทธ์ เผยว่ามีการพูดคุยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยขณะนี่หลายโรงพยาบาลต่างๆ เตรียมพร้อมเครื่องมือและบุคคลากรเพื่อรองรับหากเกิดการแพร่ระบาด ส่วนเรื่องวัคซีนที่ผลิตอยู่หลายบริษัทได้ถูกจองวัคซีนในล็อตแรกหมดแล้ว และในบางประเทศมีการจองวัคซีนที่เกินกว่าจำนวนประชาชน ซึ่งทางประเทศไทยได้มีร่วมลงนามกับ บ.เอสตราเซเนกา ซึ่งยืนยันได้ว่าประเทศไทยจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน

ด้านนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมครม. ได้ปรับปรุงรายละเอียดมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ จากเดิมที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติเข้ามาพำนักในประเทศไทย ผ่านมาตรการนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa หรือ (STV) ที่ต้องการมาพำนักระยะยาว (Long Stay) และนักท่องเที่ยวและลูกเรือที่เดินทางเข้าไทยโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช)

โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นนักท่องเที่ยวมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุขสำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินเข้าประเทศไทยน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนด คือ มีเพียง 825 คน จาก 29 สัญชาติ และมีเรือสำราญ (เรือยอร์ช) เข้าไทย จำนวน 6 ลำเท่านั้น

ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศเพิ่มขึ้น ครม. จึงมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นการยกเลือกเงื่อนไขกรณีการเดินทางมาพำนักระยะยาว

สำหรับบุคคลต่างด้าวที่เป็นนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) โดยไม่จำกัดประเทศ จากเดิมที่ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงขยายระยะเวลาขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (STV) ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองให้แก่คนต่างด้าวที่มากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) ออกไปอีก 30 วัน นับจากวันที่ประกาศฉบับนี้บังคับใช้

นางสาวรัชดา กล่าวย้ำว่า แม้จะมีการผ่อนปรนในเรื่องดังกล่าว นักท่องเที่ยวทั้ง 2 กลุ่มยังคังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการขอวีซ่า (STV) ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด อาทิ การแจ้งที่พำนักในประเทศไทยให้ชัดเจน และต้องยินยอมที่จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/kFFNDfDTr5U

แชร์ข่าวไปที่

ท่าขี้เหล็ก

อู่ฮั่น

โควิด19

หมอศิริราช

เมียนมาโควิดระบาด

ครม

นักท่องเที่ยว

กักตัว