ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบแก้ไข พ.ร.ก.ไซเบอร์ ให้ธนาคาร และเครือข่ายมือถือ ร่วมรับผิดชอบเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่า จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ.68 นี้เลย ทำให้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเด้งรับนโยบาย ด้วยการยกระดับกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ และเริ่มแล้ววันนี้ กับมาตรการให้ธนาคารสกัดการโอนเงินเข้าบัญชีม้า ทำให้วันนี้ คนไทยทุกคนจะโอนเข้าบัญชีม้าไม่ได้แล้ว
เริ่มวันแรก ปิดปากม้า สกัดโอนเงินเข้าบัญชีม้า
วันนี้ เป็นวันแรกที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน เพิ่มความเข้มข้นและขยายผลการจัดการบัญชีม้าต้องสงสัย โดยใช้มาตรการ ก ข ค ยกระดับปราบบัญชีม้า คือ กวาดล้าง เข้มข้น และครอบคลุม
1. การกวาดล้างบัญชีม้าให้ได้มากขึ้น ธปท.จะแบ่งเฉดสีระดับบัญชีม้า เพื่อให้การปฏิบัติการรวดเร็วขึ้น แบ่งเป็น ม้าดำ คือ บัญชีที่อยู่ในฐานข้อมูล ปปง. ม้าเทา คือ มีผู้เสียหาย ม้าเทาเข้ม-ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว และม้าเทาอ่อน ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความ ม้าน้ำตาล ยังไม่มีผู้เสียหาย แบ่งเป็น ม้าน้ำตาลเข้ม-ธนาคารมั่นใจพอที่จะแจ้งตำรวจ และม้าน้ำตาลอ่อน-ธนาคารสงสัย
2. Action เข้มข้น เริ่มวันนี้ ดำเนินการ ปิดปากม้า โดยให้ทุกสถาบันการเงิน ห้ามทำธุรกรรม หรือห้ามโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย เป็นบัญชีม้า โดยในส่วนของการกันเงินไหลเข้า ในส่วนของม้าดำ และม้าเทาเข้ม เริ่มทำแล้วในวันนี้ สรุปคือ ถ้าเป็นบัญชีที่มีฐานข้อมูล ปปง. และมีผู้เสียหาย นับตั้งแต่วันนี้ จะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวได้ ส่วนม้าเทาอ่อน และม้าน้ำตาลเข้ม จะดำเนินการภายในมีนาคม ส่วนการกันเงินไหลออก ในส่วนม้าดำ ม้าเทาเข้ม ม้าเทาอ่อน ทำแล้ว ส่วนม้าน้ำตาลเข้ม ดำเนินการภายในมีนาคม และการกันเปิดบัญชีใหม่ ในส่วนม้าดำ ม้าเทาเข้ม ม้าเทาอ่อน ทำแล้ว ส่วนม้าน้ำตาลเข้ม ภายใน มี.ค.
นอกจากนี้ ธนาคารจะส่งแจ้งเตือนถึงลูกค้าว่า กำลังโอนเงินเข้าบัญชีม้า ปัจจุบันทำได้บางแห่ง แต่คาดว่า การแจ้งเตือนจะทำได้ทุกธนาคารภายในเดือนมีนาคม 68
3. ครอบคลุม ขยายวงกว้าง โดยสถาบันการเงินร่วมกันแชร์ข้อมูลบัญชีม้า และบัญชีต้องสงสัยร่วมกันทั้งระบบได้ เพื่อให้เห็นบัญชีต้องสงสัยทั้งระบบร่วมกัน จากเดิมที่ธนาคารไม่สามารถแชร์ข้อมูลร่วมกันได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบัญชีม้าในอนาคต จากข้อมูลในปี 2567 พบว่า มีการระงับบัญชีม้า 1.75 ล้านบัญชี มีรายชื่อม้า 134,000 รายชื่อ แต่บัญชีม้ายังไม่ได้หมดไป ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการปราบบัญชีม้า
บัญชีม้าโวยธนาคาร บัญชีถูกระงับ
และหลังจากเริ่มมาตรการสกัดการโอนเงินเข้าออก ปรากฎว่า มีผู้ใช้บัญชีม้าหลายรายมาโวยธนาคารว่า ใช้งานบัญชีไม่ได้ โดยเพจเฟซบุ๊ก ดรามา แอคดิค โพสต์ระบุว่า ลูกเพจแจ้งว่าที่ธนาคารหลายแห่งมีคนมาติดต่อที่ธนาคารว่า บัญชีถูกระงับการใช้งาน จากนโยบาย ธปท เรื่องบัญชีม้าเยอะมาก และยังโพสต์อีกว่า ในธนาคารตอนนี้มีวัยรุ่นมาโวยที่ธนาคารอื้อว่า ใช้บัญชีไม่ได้ หลังธนาคารระงับบัญชีม้าล๊อตใหญ่ รวมถึงบัญชีอื่นของเจ้าของเดียวกัน ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นแนะนำธนาคารว่า ให้ประสานตำรวจมารวบตัวหน้าธนาคารเลย
แฉหาบัญชีม้าโจ๋งครึ่ม-อ้างรายได้งาม
นอกจากนี้เพจเฟซบุ๊ก ดรามา แอคดิค ยังโพสต์แฉระบุว่า มีลูกเพจแจ้งว่า เจอโพสต์รับสมัครงานออนไลน์ตามกลุ่มต่างๆเลยลองทักไปคุย ปรากฏว่าเป็นนายหน้าเปิดบัญชีม้า หาคนไปปอยเปต พร้อมเผยแพร่บทสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์ เป็นข้อความพูดคุยเชิญชวนให้มาทำงานเปิดบัญชีให้เช่า รายได้บัญชีละ 4,000 บาท จบงานรับเงินสด แต่ต้องมาอยู่ตลาดโรงเกลือ 3-5 วัน เพราะต้องสแกนหน้าโอนเงิน เอาบัญชีมาใช้ฝากถอนเว็บกาสิโน มีที่พัก และอาหารเลี้ยงไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ยังแชร์โพสต์ในกลุ่ม บิดแอปเงินกู้ออนไลน์ที่มีการประกาศหาเด็กสแกนหน้าเปิดบัญชี บัญชีละ 3,000 บาท 3-4 วันจบงาน รับไม่อั้น
บุกทลายรังซิมบ็อกซ์ ย่านรามคำแหง
ส่วนการปฏิบัติการของตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 1 วันนี้ เปิดปฏิบัติการทลายรังซิมบ็อกซ์ เข้าตรวจค้นอพาร์ทเมนต์ย่านรามคำแหง 52 ยึดของกลางเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด 5 เครื่อง ซึ่งสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 32 ช่องต่อเครื่อง ปลายทางใช้เสาสัญญาณในประเทศไทย แต่บุคคลที่หลอกลวง จะใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้านในการเชื่อมมายังตัวปล่อยสัญญาณดังกล่าว สืบสวน ทราบว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายนับ 10 ราย ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินในพื้นที่ สภ.สมุทรปราการ จังหวัดตรัง และ จังหวัดอุบลราชธานี ตำรวจจึงติดตามสืบสวน กระทั่งทราบว่า เครื่องดังกล่าวนำมาตั้งไว้ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้
เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวผู้ที่เปิดห้องเช่าได้ 1 ราย และ ผู้จ้างวาน 2 ราย ตำรวจแจ้งเตือนว่า หากอพาร์ทเมนต์ไหน พบเหตุต้องสงสัยเช่นตัวคนไม่อยู่แต่ค่าไฟสูงผิดปกติ เพราะต้องเปิดแอร์ไปไว้ให้อุปกรณ์ไม่ร้อน ให้รีบประสานตำรวจทันทีเพื่อเข้าดำเนินการต่อไป
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจไซเบอร์ บช.สอท.โพสต์รูปพร้อมข้อความเตือนภัยว่า สภ.ปอยเปต มีสารวัตรย้ายมาใหม่ ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยระวังตำรวจปลอม วีดีโอคอลมาข่มขู่ จำไว้ ตำรวจจริง = ไม่โอนเงิน ตำรวจปลอม = โกงเงิน! ตำรวจไซเบอร์พึ่งพาได้ ลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน แจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ โทร.สายด่วน 1441
เริ่มพรุ่งนี้ ชื่อซิมกับแอปฯ ธนาคารต้องตรงกัน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประกาศมาตรการยกระดับความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking เพื่อตัดวงจร บัญชีม้า และป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป
มาตรการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง ปปง. ธปท. กสทช. สมาคมธนาคารไทย และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย เพื่อให้ชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ตรงกับชื่อเจ้าของซิมมือถือ ป้องกันการใช้ซิมที่ไม่ระบุตัวตนในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
ตรวจสอบพบว่า ชื่อเจ้าของซิม และ Mobile Banking ไม่ตรงกัน กว่า 30 ล้านหมายเลข ซึ่งจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอป Mobile Banking ให้ปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องภายใน 90 วัน (ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568) ต้องติดต่อไปที่ศูนย์บริการค่ายโทรศัพท์มือถือที่ตนเองใช้บริการและนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน ไม่อย่างนั้นอาจถูกระงับการใช้งาน Mobile Banking ชั่วคราว แต่ยังสามารถใช้เงินได้อยู่ ผ่านทางธนาคารหรือบัตรเครดิต เพียงแต่ใช้ผ่านทาง Mobile Banking ไม่ได้
พรุ่งนี้ (1 ก.พ.) ธนาคารต่าง ๆ จะเริ่มทยอยส่ง SMS ไปทาง Mobile Banking คาดจะส่งข้อความถึงผู้ใช้บริการทั้งหมดได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35