นายพีระวุฒิ กุลอมรกานต์ อายุ 49 ปี บิดา ของนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้ พานายภาสพงศ์ มามอบตัวกับ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 และตำรวจ สน.พหลโยธิน
หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเข้าใส่นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี อดีตนักเรียนเทคนิคปทุมธานี จนบาดเจ็บ ภายหลังการประกาศยุติการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายพีระวุฒิ กล่าวว่า ตนตกใจมาก เมื่อทราบข่าวทางโซเชียลว่าลูกชายไปยิงการ์ดในม็อบ หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จ ก็เลยพาลูกมามอบตัวกับตำรวจ
นายภาสพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเกิดจากตนมีปัญหาส่วนตัวกับคนเจ็บ เพราะถูกฝ่ายคู่กรณีมาโพสต์เฟซบุ๊กแขวะเกี่ยวกับความเห็นต่างเรื่องการจาบจ้วงสถาบันที่พวกตนไม่เอาด้วย และมีกลุ่มรุ่นพี่ตนไปปราศรัยที่ จ.ชัยนาท โดยพูดถึงกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย
ทั้งนี้ วันเกิดเหตุพวกตนมาที่รัชโยธินเพื่อเป็นการ์ดดูแลมวลชน แต่ไม่ได้สวมปลอกแขนเพราะเข้ามาในฐานะประชาชน ยืนยันไม่ได้มีใครจ้างพวกตนมา เพราะขนาดเจ็บตัวก็ยังต้องออกเงินรักษาเอง
ขณะที่ด้านเพจเฟซบุ๊ก 'ฟันเฟืองธนบุรี - Gear Of Red Thonburi' ได้ออกมาโพสต์ข้อความหลังมือปืนยิงการ์ดกลุ่มราษฎรเข้ามอบตัว ระบุว่า "คำสารภาพที่โครตแย่ของมือยิงม็อบ25 พ.ย.ตัวคุณเองไม่เคยทำหน้าที่การ์ดหรือดูแลมวลชนเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ออกไปทำหน้าที่กัน ไม่มีชุดพวกคุณทำงานเลยแม้แต่น้อย
ส่วนเรื่องปืนโยนมาให้ว่าทางหัวหน้าแจกปืนให้ทุกคน สำหรับกลุ่ม "ฟันเฟืองฯ" ไม่เคยพกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าพวกเรามีปืนจริงคงไม่ถูกดักทำร้ายมาแล้วถึง 3 ครั้ง "คำให้การของคุณมันไม่สมเหตุสมผลเลย หยุดสร้างความแตก หยุดสร้างสถานการณ์ได้แล้ว เพราะยังไงก็ไม่มีทางทำให้"ฟันเฟืองฯทุกกลุ่มแตกกันได้อีกต่อไป" #ถ้าพวกกูมีปืนจริงมึงไม่มีทางมานั่งให้การเท็จแบบนี้หรอก"
+ อ่านเพิ่มเติม