บรรยากาศการชุมนุมของคณะราษฎรวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ณ แยกราชประสงค์ มีการเดินขบวนไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประท้วงกรณีการใช้แก๊สน้ำตา น้ำแรงดันสูงฉีดใส่ม็อบจนบาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อสกัดไม่ให้ไปชุมนุมหน้าสภา โดยผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนมีการสาดสีบริเวรรั้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เวลา 20.37 น. แม้จะประกาศยุติการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุนยังไม่หยุดพ่นสี บนกำแพง และป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทั้งยังถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก บางส่วนนำดอกไม้จันทน์ไปเสียบไว้บนประตู พร้อมกับชูสามนิ้ว
ขณะที่ทนายอานนท์ นำภา แกนนำคนรุ่นใหม่ ได้แจ้งว่าจะมีการจัดกิจกรรมครั้งใหม่ เป็นบิ๊กเวอร์ไพรส์ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะมีการแยกย้ายกันเดินทางกลับ
หลังจากที่ผู้ชุมนุมยุติการทำกิจกรรม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน เดินทางไปตรวจสอบความเรียบร้อย รวมไปถึงความเสียหายบริเวณด้านหน้าประคตูใหญ๋ ระบุว่า เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด ส่วนจะเป็นข้อหาใดบ้าง ต้องมาแยกแยะในพฤติกรรมที่เข้าข่ายแต่ละข้อหา
ด้านนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ที่เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมมาแสดงสัญลักษณ์สาดสีใส่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นในองค์กรตำรวจ และเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงออกมาฟังเสียงของประชาชน เนื่องจากหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป องค์กรอาจจะเสียหายมากไปกว่านี้
สำหรับกิจกรรมชุมนุมแยกราชประสงค์ เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันเวลา 16.00 น. และมีมวลชนไปรวมตัวกันเต็มพื้นที่ประมาณ 17.00 น. มีกลุ่มแกนนำร่วมกิจกรรม เช่น รุ้ง ปนัสยา ไมค์ ภาณุพงศ์ ไผ่ ดาวดิน รวมถึงผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ใหญ่ขอนแก่พอกันที ซึ่งมีการสลับกันขึ้นเวทีปรายศรัยเน้นโจมตีการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุมจากเหตุสลายการชุมนุมแยกเกียกกาย ไม่เพียงแต่ผู้ชุมนุมที่ถูกผลกระทบจากแก๊สน้ำตาเท่านั้น แต่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นแนวกั้นอยู่ด้านหน้าก็ถูกผลกระทบเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในกิจกรรมชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ 18 พฤศจิกายน กลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อสร้างสีสัน โดยการขนเป็นยางสีเหลืองตัวใหญ่ ถูกเอามาจัดเป็นแนวป้องกัน เช่นเดียวกับสายเสบียงที่มีการออกซุ่มปลาหมึกย่าง หมูกระทะ มานั่งรับประทานกันอีกครั้ง
ส่วนกลุ่มคนรุ่นใหม่ในต่างจังหวัดก็มีการจัดกิจกรรมชุมนุมเป็นเวทีคู่ขนาดกับพื้นที่ในกรุงเทพเพื่อแสดงออกทางการเมืองเช่นเดียวกัน
นครราชสีมา - จัดแฟลชม็อบประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ม็อบ 17พฤศจิกา ขณะที่ประชาชนแนวร่วมปกป้องสถาบัน เข้ามาสังเกตการณ์ จนท.ต้องเฝ้าระวังจับตาไม่ให้เกิดการปะทะ
ม็อบราษฎรโคราษฎร์ พร้อมแนวร่วมกลุ่มเยาวชนโคราชมูฟเม้น และกลุ่มเยาวชนโคราชเพื่อประชาธิปไตย นัดรวมพลด่วนช่วงเย็นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา หลังจากเพจเฟสบุ๊ค “KoratMovement” #Flash Mob ได้นัดชุมนุมแฟลชม็อบอีกครั้ง “ประณามการกระทำของรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม โดยร่วมกันออกมาแสดงผลของการกระทำของพวกเขา แสดงให้พวกเขาได้รู้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ได้ทำให้เราเกรงกลัว แต่ทำให้เราตื่นขึ้นมากกว่าเดิม”
พร้อมกับร่วมกันเดินหน้าสนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก , ตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ จากนั้นยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามข้อเรียกร้อง 10 ข้อของ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
ในขณะเดียวกัน ประชาชนโคราชปกป้องสถาบันฯ บางคนได้เดินทางมาสังเกตการณ์ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีด้วย แต่สวมเสื้อสีอื่นไม่ได้สวมเสื้อเหลือง เจ้าหน้าที่ได้จับตาเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเบื้องต้นบรรยากาศการชุมนุมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการปะทะกันเกิดขึ้น
โดยในเวลา 18.00 น. เครือข่ายม็อบราษฎรโคราษฎร์ ซึ่งส่วนใหญ่สวมชุดสีดำ ได้พร้อมใจกันยืนชู 3 นิ้ว ร้องเพลงชาติอย่างกึกก้อง และชุมนุมกันต่อจนถึงเวลา 20.00 น.จึงสลายการชุมนุม
พิษณุโลก - กลุ่มเยาวชน ในนาม พิษณุโลกปลดแอก จำนวนประมาณ 70 คน จัดกิจกรรม FLASH MOB เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทางการเมือง ชู 3 นิ้ว และแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ที่บริเวณสวนกลางเมืองพิษณุโลก อ.เมืองพิษณุโลก กลุ่มพิษณุโลกปลดแอก Plkkidsdemocracy นำโดยนายอดิศร รอดประดิษฐ์ อดีตนักศึกษาพยาบาล และนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย นางสาว พัณณ์วรา ภัคพลสิทธินันท์ แกนนำ nu movement พร้อมมวลชนจำนวนประมาณ 70 คน จัดกิจกรรม FLASH MOB เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทางการเมือง ชู 3 นิ้ว และแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยกลุ่มเยาวชน ในนามพิษณุโลกปลดแอก ได้ร่วมกันการเขียนป้ายผ้าโจมตีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน และแจกสติ๊กเกอร์หมุดคณะราษฎร
จากนั้นเวลา 18.00 น. ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายมาจัดกิจกรรมหน้า สภ.เมืองพิษณุโลก โดยมีการชูป้ายผ้าข้อความและกล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับใช้ประชาชน สลับการกล่าวคำ เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ และมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการโปรยอาหารหมาหน้า สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนจะมีการยุติได้มีการนำไม้กวาดมาเก็บกวาดบริเวณหน้าโรงพักให้สะอาด และแยกย้ายกันในเวลา 18.45 น.
ภูเก็ต - ราษฎรภูเก็ตประมาณ 10 คน เดินทางไปรวมตัวหน้าสภ.เมืองภูเก็ต เขียนกระดาษสื่อความในใจถึงตำรวจหยุดคุกคามประชาชนพร้อมเทอาหารแมวแสดงสัญลักษณ์ ขณะที่ชายชุดดำโผล่กลางวงขออย่าจาบจ้วงสถาบัน
ที่บริเวณ ด้านหน้าสภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต และสภ.ใกล้เคียง ประมาณ 100 นาย ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ดูแลความสงบบริเวณโดยรอบ สภ.เมืองภูเก็ต หลังกลุ่มม๊อบราษฏร ภูเก็ต มีการนัดหมายทางกลุ่มโซเชี่ยลมีเดีย ว่าจะมีรวมตัวแสดงออกที่บริเวณ หน้าสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแสดงออกกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสลายการชุมนุมที่รัฐสภาเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีกลุ่มราษฏร ภูเก็ต ประมาณ 10 คนเดินทางมาที่ลานด้านหน้าอาคาร พร้อมมีการแจกกระดาษเขียนข้อความต่างๆ ซึ่งระบุว่า เป็นความในใจ เพื่อสื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยข้อความ ระบุในทำนองเดียวกันว่า “หยุดคุกคามประชาชน” ก่อนจะมีการนำอาหารแมวมาเทบริเวณพื้นเพื่อแสดงสัญลักษณ์
อย่างไรก็ตามขณะที่ทำการเขียนป้ายข้อความอยู่นั้นได้มีชายเสื้อดำ 1 ราย ถือแผ่นกระดาษระบุข้อความปกป้องสถาบันเข้ามาพูดคุย สอบถามถึงความหมายของข้อเรียกร้องที่จะมีการปฏิรูปสถาบัน พร้อมระบุว่าตนเองก็อยู่ข้างประชาธิปไตย แต่ก็อยู่ข้างสถาบัน ไม่อยากให้น้องๆจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งฝ่ายราษฏรก็พยายามอธิบายโต้ ทั้งสองใช้เวลาถกเถียงกันอยู่เป็นเวลาประมาณ 3 นาที ก่อนจะมีกลุ่มเพื่อน มาพาตัวชายคนดังกล่าวออกไป โดยไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น ก่อนที่ทั้งหมดจะสลายตัวในเวลาประมาณ 18.10 น.