‘โรคหอยคัน’ ระบาด พบชาวนาจำนวนมากมีตุ่มแดงคัน แพทย์ชี้เกิดจากพยาธิในหอยชอนไช
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

‘โรคหอยคัน’ ระบาด พบชาวนาจำนวนมากมีตุ่มแดงคัน แพทย์ชี้เกิดจากพยาธิในหอยชอนไช

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : เฟซบุ๊กนายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หรือหมอจุ๊ก ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยเรื่องราวของชาวบ้านในพื้นที่ อ.จะนะ ป่วยด รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน,ทิน โชคกมลกิจ,รอดไปด้วยกัน,ข่าวเศรษฐกิจ,โรคหอยคัน,ระบาด,ชาวนา,พยาธิ

2,422 ครั้ง
|
12 พ.ย. 2563
เฟซบุ๊กนายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หรือหมอจุ๊ก ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเผยเรื่องราวของชาวบ้านในพื้นที่ อ.จะนะ ป่วยด้วยอาการมีผื่นคันตามผิวหนังจำนวนมาก โดยระบุว่า “ดำนาแล้วเกิดผื่นคันที่จะนะ กับภารกิจที่ต้องจับผู้ร้ายให้จงได้”
 
นายแพทย์สุภัทร ระบุว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีอุบัติการณ์โรคชนิดหนึ่งที่ต้องสงสัย เพราะมีผู้ป่วย ที่มีอาการผื่นคันจำนวนมาก ลักษณะคือ มีตุ่มแดงคันนูนอย่างน่ากลัว คันมากตามแขนขา พบว่ามีผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ 7 ตำบล คนไข้ทั้งหมดมีอาการผื่นคันหลังการดำนา โดยส่วนใหญ่คนไข้เริ่มคันหลังดำนาได้ 1-3 วัน
 
จากการสังเกต ผื่นมีลักษณะจำเพาะ คือเป็นผื่นที่ขาทั้ง 2 ข้างและแขนข้างที่ถนัด ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้าน ดำนา คือที่แขน-ขา ข้างที่ใช้ปักดำกล้าเท่านั้นจะเกิดผื่น ส่วน แขนอีกข้างที่ใช้วางต้นกล้าบนแขนซึ่งไม่ได้สัมผัสน้ำจะไม่มีผื่น ไม่มีผื่นบริเวณร่มผ้าหรือบริเวณอื่นที่ไม่สัมผัสน้ำ พบผู้ป่วยที่มาตรวจรักษามากถึง 233 ราย  และมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่ง ที่เป็นไม่มากและไม่ได้มาตรวจ ผู้ป่วยทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดำนามาทุกปี ไม่เคยเจอแบบนี้ ผมเป็นหมอที่โรงพยาบาลจะนะมากว่า 20 ปีก็ไม่เคยเจอเช่นกัน
 
คำถามคือ สาเหตุของผื่นคันที่ระบาดหนักในครั้งนี้ เกิดจากอะไร เกิดจากมลพิษสารเคมีในน้ำ หรือเกิดจากเชื้อโรคเชื้อพยาธิ
 
ทางโรงพยาบาลจะนะ ได้รับการช่วยเหลือจาก สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ ที่มาจากกระทรวงสาธารณสุข สถาบันโรคผิวหนังภาคใต้ซึ่งตั้งที่จังหวัดตรัง และคณะแพทย์จากโรงพยาบาลหาดใหญ่และสงขลานครินทร์ ร่วมกันมาสอบสวนโรคและหาสาเหตุ จากการซักประวัติ  ตรวจร่างกาย ทำแผนที่การระบาด ซึ่งจาการตรวจก็ไม่พบเหตที่ทำให้มีอาการดังกล่าว  เหลือ 2 เหตุที่ป็นไปได้ คือ  ผื่นคันจากเชื้อปรสิตที่มาจากหอย ซึ่งคุณหมอ เปรียบเทียบว่าเป็นผู้ร้ายที่ต้องสงสัยที่สุด ส่วนน้ำเสียจากการเกษตรหรือโรงงานนั้นน่าจะไม่ใช่ แต่ยังต้องคิดถึงอยู่
 
ดังนั้นเพื่อให้สามารถจับผู้ร้ายได้แม่นยำ จึงต้องได้นำน้ำและหอยในนาไปตรวจ และมีผู้ป่วย 4 คนยินดีให้ทำskin biopsy หรือผ่าเอาเนื้อผิวหนังไปตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์ และพบว่า สาเหตุที่ชาวบ้านป่วยมีอาการดังกล่าวนั้น มาจากหอย
 
ผลการตรวจ skin biopsy พบตัวอ่อนพยาธิตัวแบน Cercaria ในผู้ป่วย 3 คน จากที่ผ่าส่งตรวจไป 4 คน และในน้ำที่ส่งตรวจก็พบเชื้อพยาธินี้ด้วย และจากการไปลงพื้นที่เพื่อสำรวจหอยในพื้นที่นา ก็พบทั้งหอยเชอรี่ หอยโข่ง และหอยคัน และหอยคันที่เก็บไปก็ตรวจพบเจอ Cercaria อีกด้วย
 
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ผื่นคันครั้งนี้ วินิจฉัยโรคว่า เป็น Cercarial dermatitis หรือ Swimmer’s itch  หรือ ชื่อไทยๆ เรียกว่า โรคหอยคัน
 
ลักษณะของอาการนี้ จะเริ่มคัน มีผื่นเกิดจากตัวอ่อนของพยาธิได้ไชเข้าไปสู่ผิวหนังของคนไข้ แต่พยาธินี้เป็นพยาธิใบไม้ในเลือดที่เติบโตได้จำเพาะเฉพาะในสัตว์ (Animal Schistome) ไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในคนได้ เมื่อชอนไชเข้าสู่ร่างกายของคน พยาธิก็จะตายหลังจากไชไประยะเวลาหนึ่งบริเวณผิวหนัง
 
แต่การไชไปตามผิวหนังก็กระตุ้นให้เกิดผื่นและอาการคัน ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกาย พบว่าคนไข้ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นได้เองหลังผ่านไป 1-2 อาทิตย์ การใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ทั่วไปก็สามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น
 
ส่วนคำถามใหญ่ที่ยังไม่มีใครตอบคือ อะไรทำให้เกิดการระบาดของเชื้อพยาธิในครั้งนี้  หรือเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเติบโตของหอยและเชื้อพยาธิ หรือการไหลหมุนเวียนของน้ำท่าที่ถูกปิดกั้นจากการถมที่ หรือมีเหตุอื่นๆที่เราคาดไม่ถึง  แต่ที่แน่ๆหากปีหน้าเกิดซ้ำ พื้นที่ทำนาของจะนะที่ลดลงต่อเนื่องอยู่แล้วน่าจะลดลงมากไปอีกอย่างแน่นอน
 
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/RVjt85s6UMw

ข่าวที่เกี่ยวข้อง