ศาลสั่งจำคุก 2 ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ คดีล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์การ์ตูนเด็ก 15
logo ข่าววันใหม่

ศาลสั่งจำคุก 2 ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ คดีล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์การ์ตูนเด็ก 15

ข่าววันใหม่ : กรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่หารายได้เสริมรับจ้างประดิษฐ์กระทง แต่ถูกกลุ่มคนโทรศัพท์มาสั่งซื้อกระทงลวดลายการ์ตูน ต่อมาเ กรรโชกทรัพย์,ล่อซื้อกระทง,ลิขสิทธิ์การ์ตูน

679 ครั้ง
|
29 ต.ค. 2563
กรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่หารายได้เสริมรับจ้างประดิษฐ์กระทง แต่ถูกกลุ่มคนโทรศัพท์มาสั่งซื้อกระทงลวดลายการ์ตูน ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดรับของก็ได้มีการจับกุมเด็กสาววัย 15 ปี ผู้ประดิษฐ์กระทง พร้อมอ้างว่าเป็นตัวแทนลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ ก่อนจะกรรโชกเรียกรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แลกกับการปล่อยตัว สุดท้ายผู้ปกครองของเด็กเจราจายอมจ่ายเงินให้จำนวน 5,000 บาท
 
 
 
ซึ่งต่อมาผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประจักษ์ โพธิผล และนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร และ นางสาววนิสา บุตรสาวของนายนัน 3 ผู้ต้องหา ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จและกักขังหน่วงเหนี่ยว และต่อมามีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกับที่ล่อซื้อจับกุมเด็กหญิงวัย 15 ปี จนเป็นคดีโด่งดังเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา
 
 
ล่าสุดวันนี้ (28 ตุลาคม 2563) นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาได้เข้าไปเป็นทนายร่วมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย คือ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) เป็นคดีแรก และได้มีการสืบพยานกันมา จนศาลได้สั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน และวันนี้ศาลจังหวัดนคราชสีมาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยใน 3 ข้อหา คือ ใช้เอกสารปลอมในเรื่องของหนังสือมอบอำนาจ แจ้งความเท็จ และกรรโชกทรัพย์ โดยศาลชั้นต้นได้สั่งลงโทษให้จำคุกจำเลยที่ 1 นายประจักษ์ โพธิผล 2 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 3 นางสาววนิสา บุตรสาวของนายนัน ศาลได้ยกฟ้องเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าว
 
 
นาย ณพจน์ ผลเจริญ ฝ่ายช่วยเหลือทนายอาสาประจำสถานีตำรวจ/ส่วนราชการ สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาได้ติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายทุกรายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว โดยยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และรอดูผลคำพิพากษาในคดีนี้ก่อน สำหรับเป็นแนวทางประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน ซึ่งกรณีที่ศาลลงโทษจัดสินจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่เท่ากัน ศาลได้พิจารณาจากพฤติการณ์การทำความผิดเป็นหลัก จึงใช้ดุลพินิจในคำตัดสินพิพากษาไม่เท่ากัน โดยหลังจากมีศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ทางจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งเบื้องต้นศาลชั้นต้นได้ให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 2 คน ด้วยหลักทรัพย์คนละ 8 หมื่นบาท
 
 
 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/KYSsUxqZftw