จากกรณี น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ ครูจุ๋ม ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ด้านผู้ปกครองเดือดหลังเห็นคลิปลูกถูกทำร้าย ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
ครูจุ๋ม เผยสำนึกผิดแล้ว ขอโทษผู้ปกครองจากใจ ระบุ "ไม่ต้องให้อภัยก็ได้ แต่ขอยกโทษให้ ตอนนี้ไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคมแล้ว" อ้างลงมือเพราะเครียดปัญหาครอบครัว แม่ป่วย ทำไปโดยไม่รู้ตัว ปัดบังคับเด็กกินอ้วก กลั้นปัสสาวะ ด้านแม่ถาม "สังคมจะไม่ให้อภัยบ้างเหรอ เลี้ยงลูกมารู้ไม่มีจิตใจโหดร้าย"
ล่าสุด ยังมีคลิปถูกแฉอีก เป็นภาพครูผู้ชายชาวฟิลิปปินส์ เดินชี้หน้าด่าเด็ก กระชากแขนเด็ก ดึงตัวเด็กไล่ให้ไปนอกห้อง ซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับครูจุ๋ม โดยที่ครูอีก 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์นิ่งเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้าน พ่อของเด็กรับไม่ได้ หมดความไว้ใจกับโรงเรียน ไหนสโลแกนบอกให้ความสำคัญกับเด็กที่สุด ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เมื่อไปถามลูกว่าเค้าพาหนูไปไหน ลูกบอกพาไปห้องน้ำ ถูกขังสิบกว่านาที และถูกตีด้วย เชื่อนี่ไม่น่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ตอนนี้ลูกนอนละเมอ บอกว่าอย่าทำ กลัว และกลายเป็นเด็กก้าวร้าว ตบหน้าพ่อ บอกว่าพ่อเสียงดัง
นอกจากนี้ ยังมีคลิปวงจรปิดที่เผยให้เห็นพฤติกรรมของครูจุ๋ม ที่ทำร้ายเด็ก และพฤติกรรมของครูคนอื่น ถูกปล่อยออกมาอีกหลายคลิป รวมถึงพบว่าครูจุ๋ม ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู จบเพียง ม.6 แต่มาเป็นครูพี่เลี้ยง โดยทำงานมา 8 ปีแล้ว
ซึ่งต่อมา ครูจุ๋ม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ยอมรับว่าตัวเองจบแค่ ม.6 โดยทำงานเป็นครูพี่เลี้ยง เข้าสู่ปีที่ 8 กระทั่งมาเกิดเหตุนี้ขึ้น ยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษทุกคนจากใจจริง พฤติกรรมที่ตนทำไป ผู้ปกครองของเด็กคงไม่ให้อภัยเพราะมันรุนแรงมาก ยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง
"สิ่งที่ตนทำมันไม่เหมาะสมทำกับเด็กอย่างนั้น แต่ด้วยสาเหตุต่าง ๆ ทำให้ตนลงมือทำกับเด็ก ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ยอมรับเครียดทำไปโดยไม่รู้ตัว ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ยอมรับผิด อยากจะขอโทษผู้ปกครองจากใจจริง ที่ทำไปเพราะเครียดปัญหาหลายอย่าง ทั้งปัญหาครอบครัว แม่ป่วย บางเรื่องไม่สามารถพูดหรือบอกให้ใครฟังได้"
เมื่อถามว่าทำไมถึงทำกับเด็กรุนแรงขนาดนั้น ครูจุ๋ม ระบุว่า เด็กพูดแล้วไม่ฟัง เรียกชื่อก็ ไม่รู้จักชื่อตัวเอง ไม่ทำตามที่ครูสั่ง ให้ลุกขึ้นยืนก็ไม่ยืน ส่วนที่ยืนชี้หน้าด่าเด็กผลักตัวหัวไปชนกับผนังห้องนั้น เพราะตนสอนแต่เด็กไม่ฟัง จึงต้องใช้เสียงและแสดงการกระทำที่ไม่ดีออกไปตามคลิป รวมถึงคลิปวงจรปิดอื่น ๆ ด้วย ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำรุนแรงขนาดนั้น ส่วนคลิปที่ใช้แป้งขยี้หน้าเด็ก แล้วมีครูผู้หญิงอีกคนเอาหัวเข่ามากระทุ้งตัวเด็ก ครูจุ๋มอ้างว่ายังไม่เห็นคลิป
ครูจุ๋ม เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้เครียดมากไม่อยากอยู่แล้ว กินยาคลายเครียดเยอะ ๆ อยากจะให้หลับไปเลย ไม่ต้องตื่นมารับรับรู้ปัญหาอะไรอีก นอนไม่ได้ต้องกินยาตลอด อยากตาย ไม่เคยเจออะไรหนักหนาสาหัสแบบนี้ ยอมรับผิดกับสิ่งที่ตนทำ จะไม่กลับไปเป็นครูอีกแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะไปทำงานอะไร
ส่วนเด็กห้องอื่นไม่เคยเข้าไปยุ่งหรือกระทำรุนแรงตามคลิป เพราะจะมีครูประจำห้องใครห้องมัน ขอโทษผู้ปกครอง ขอโทษโรงเรียน ขอโทษสังคม ไม่ต้องให้อภัยก็ได้ มันยากที่จะให้อภัย แต่ขอยกโทษให้ตน ให้ได้มีที่ยืนในสังคม ตอนนี้ไม่มีที่ยืนอยู่ในสังคมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำรุนแรงกับเด็กแบบนี้มานานหรือยัง ครูจุ๋ม อ้างว่าเพิ่งกระทำตั้งแต่เปิดเทอมหลังจากโควิด-19 ซึ่งเป็นจังหวะที่ครูประจำชั้นคนเก่าลาออกไป ตนจึงต้องดูแลเด็กในชั้นเรียนทั้งหมด 32 คน ส่วนครูผู้ชายชาวต่างชาติในคลิปเพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน และครูผู้หญิงอีกคนก็เพิ่งมาเป็นครูประชั้น ยังเอาเด็กไม่อยู่ ครูมาใหม่ยังไม่รู้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ตนต้องช่วยดูแลเด็ก จึงต้องใช้เสียงดุด่า
ครูจุ๋ม ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนทำไม่คิดว่ามันจะรุนแรง ภาพในคลิปวงจรปิดมันดูรุนแรงเกินไป ยืนยันไม่เคยลากเด็กไปทำร้ายร่างกายในห้องน้ำ และไม่ได้บังคับกินอ้วก หรือให้เด็กกลั้นปัสสาวะ ลงมือกระทำตามคลิปที่เห็น พอตนเองผิดเขาก็เอาเรื่องเก่า ๆ ที่คนอื่นทำมาโยนลงที่ตนคนเดียว หลังเกิดเรื่องตนได้ติดต่อกับผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง ซึ่งได้ขอโทษแต่ผู้ปกครองท่านนั้นคงไม่รับคำขอโทษจากตน
ขณะที่แม่ของครูจุ๋ม ยอมรับว่าลูกของตนทำเกินไป ไม่รู้ว่าลูกเครียดอะไรถึงทำกับเด็กอย่างนั้น ขอโทษผู้ปกครองทุกคน เขาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจตนก็ไม่รู้ ตนเข้าใจความรู้สึกคนเป็นพ่อแม่ ตนก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ครูจุ๋มต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาท เลี้ยงหลานอีก 4 คน ลูกสาวคงเครียดเพราะรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัว ไม่มีครูจุ๋มแม่ก็อยู่ไม่ได้
"หลังเกิดเรื่องลูกสาวมาพูดว่า ถ้าไม่มีหนูแม่จะอยู่ได้มั้ย ตนก็บอกไปว่าถ้าไม่มีลูกแม่ก็อยู่ไม่ได้ เช้าเมื่อวานนี้ลูกสาวเครียด จะกินยาคลายเครียด 10 เม็ด แต่แฟนของลูกสาวเข้าไปเจอ แม่ร้องไห้ทุกวันเพราะสงสารลูก ลูกสาวก็ร้องไห้ทุกวันเพราะเครียดที่ทำผิด "สังคมจะไม่ให้อภัยเขาบ้างเหรอ เขาก็ขอโทษทุกคนแล้ว" ตนได้แต่ปลอบใจลูกสาว ไม่ทิ้งลูกอยู่คนเดียว กลัวลูกสาวฆ่าตัวตาย เพราะเขาพูดตลอดเวลาว่าเขาไม่อยากอยู่ แม่เลี้ยงลูกมาแม่รู้ เขาไม่มีจิตใจโหดร้ายแบบนี้"