'อนุชา' แนะผู้ชุมนุม การลงถนนอาจไม่ใช่ประชาธิปไตย - 'ศรีสุวรรณ' ยื่น ปปง.ตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยงม็อบคนรุ่นใหม่
logo ข่าววันใหม่

'อนุชา' แนะผู้ชุมนุม การลงถนนอาจไม่ใช่ประชาธิปไตย - 'ศรีสุวรรณ' ยื่น ปปง.ตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยงม็อบคนรุ่นใหม่

ข่าววันใหม่ : สำหรับการชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.นี้ ด้านนายอนุชาไม่ห่วงม็อบ นศ. ย้ำรัฐไม่แทรกแซงให้เกิดความรุนแรง แต่ต้องระวังมือที่ 3 เรียกร้องแก้ปัญหา อนุชานาคาศัย,รองนายกรัฐมนตรี,วิษณุเครืองาม,บุกทำเนียบ,ชุมนุม19กันยายน,ม็อบลงถนน,ศรีสุวรรณจรรยา,ปปง,ท่อน้ำเลี้ยง

1,090 ครั้ง
|
17 ก.ย. 2563
สำหรับการชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.นี้ ด้านนายอนุชาไม่ห่วงม็อบ นศ. ย้ำรัฐไม่แทรกแซงให้เกิดความรุนแรง แต่ต้องระวังมือที่ 3 เรียกร้องแก้ปัญหาร่วมกัน ชี้ การลงถนนไม่ใช่ประชาธิปไตย
 
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา 19 ก.ย.นี้ว่า ไม่กังวลต่อการชุมนุมที่จะมีขึ้นและอาจเคลื่อนตัวมาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมองเป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่จะมีการลงถนนเรียกร้องตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนิสิต นักเรียน นักศึกษา คิดว่าเป็นการทำตามหน้าที่ และมองว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าจะเป็นปัญหาทางสังคมไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันชัดว่าม็อบนักศึกษาเป็นเหมือนลูกหลาน และจะไม่เข้าไปก้าวล่วงแทรกแซงหรือทำให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ต้องระวังมือที่ 3 เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ไม่มีสัญญาณใดแตกต่างจากที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นการเรียกร้องในสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมควรเรียกร้อง
 
นายอนุชา ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา ว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเรียกร้องและคิดตามว่าจะดำเนินการอย่างไร และเป็นเรื่องของรัฐภาที่จะพูดคุยกัน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มผู้เรียกร้องต้องการเห็นไปในทิศทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการ ซึ่งต้องพูดคุยกันในระบอบรัฐสภาว่าจะนำพาสิ่งที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรแค่ไหน แต่ด้วยเจตจำนงของทุกฝ่ายถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่ารัฐสภาพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของนิสิตนักศึกษาส่วนหนึ่ง แต่รัฐสภาก็อยากเรียกร้อง หากนิสิตนักศึกษาหรือผู้ชุมนุม อยากเห็นประชาธิปไตยก็ให้มาแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมเห็นว่า ถ้าจะพูดคุยกันแบบลงถนนและเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมดก็อาจจะไม่ใช่ประชาธิปไตยที่นิสิตนักศึกษากำลังเรียกร้อง
 
โดยระบุว่า "ถ้าเอาแต่ลงถนนแล้วเรียกร้องในสิ่งที่ตนต้องการก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น และปัญหาก็จะไม่จบสิ้น ผมหลีกเลี่ยงการลงถนนมาโดยตลอด และผมพูดได้เต็มปากว่าไม่ใช้วิธีนั้น และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่บางครั้งทั้งผมและฝ่ายการเมืองไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หากรักประชาธิปไตยที่แท้จริงควรให้โอกาสรอจนถึง 4 ปี แล้วค่อยมาเลือกตั้งใหม่ ไม่พอใจมาแก้ไขกันในสภา ไม่ใช่ว่าผมดีเด่นอะไร ผมเป็นนักการเมืองธรรมดาคนหนึ่งที่จะทำงานการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะคิดอยู่ในกรอบหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ในกรอบกี่ปีกี่ชาติก็เหมือนเดิม ไม่พอใจก็ต้องลงถนนเรียกร้องสิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อไหร่จะจบสิ้น เมื่อไหร่ลูกหลานไทยจะได้เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง"
 
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่เช่นกัน ที่ประกาศจะเคลื่อนขบวนมาปิดทำเนียบรัฐบาล ซึ่งว่าตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มีมาตรการกำหนดไว้ว่า ห้ามผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมปักหลักในสถานที่ หรืออาคารสำคัญ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล ที่ถือเป็นศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดินของประเทศ โดยกฎหมายระบุไว้ว่า ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบสถานที่ หากฝ่าฝืนถือว่าผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะทันที
 
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อเลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนบุคคลที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือเป็นผู้สนับสนุนให้กับการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา และล่าสุดคือกลุ่มที่กำลังจะดำเนินการจัดการชุมนุมสาธารณะขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 19-20 ก.ย.63 
 
เพราะการจัดชุมนุมสาธารณะแต่ละครั้งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอย่างมากมาย ทั้งค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าเวที ค่าเครื่องเสียง ค่ารถสุขา ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งค่าแรงคนงานจิปาถะมากมาย ฯลฯ ซึ่งเป็นจำนวนเงินมิใช่น้อย ลำพังนักเรียน นักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเองมากนัก ต้องแบมือขอเงินจากพ่อแม่ผู้ปกครองมาใช้ จะนำเงินมากมายมาใช้จ่ายเพื่อการจัดชุมนุมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
 
เบื้องต้นมีการส่งมอบรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง 11 คนต่อ ปปง. เพื่อให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการสั่งให้ธนาคารต่างๆ ที่บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ เปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อจัดการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย รายงานให้กับ ปปง.ทราบว่ามีใครบ้างที่บริจาคเข้าบัญชีเหล่านั้นบ้าง เพื่อที่ ปปง.จะได้เรียกมาดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดต่อไป 
 
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นท่อน้ำเลี้ยง ทางทีมข่าวตรวจสอบพบว่ากลุ่มแนวร่วมได้มีการประกาศแจ้งผ่านเฟซบุ๊กเพื่อขอรับเงินสนับสนุนผ่านบัญชีจริง แต่เป็นการเรี่ยไรเงินในหลักสิบบาท ร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งก็มีการแจ้งอย่างชัดเจรว่านำไปเป็นค่าเดินทางหรือทำกิจกรรม เมื่อรวบรวมได้ระยะหนึ่งก็จะมีการแจ้งให้ผู้สนับสนุนทราบ เพื่อยุติการเปิดรับเงินสนับสนุน
 
 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vWPJiMe9buQ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง