ชาวนาหัวใส เปลี่ยนแปลงนา หันมาปลูกผักบุ้งแก้ว ลงทุนน้อย เก็บขายได้ทุกวัน!
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

ชาวนาหัวใส เปลี่ยนแปลงนา หันมาปลูกผักบุ้งแก้ว ลงทุนน้อย เก็บขายได้ทุกวัน!

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : ในวันเว้นวัน ตั้งแต่เช้ามืด นายสมชาย แสงแก้ว อายุ 67 ปี ชาวบ้านวังฉำฉา ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จะ รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน,ทิน โชคกมลกิจ,รอดไปด้วยกัน,ข่าวเศรษฐกิจ,ชาวนา,ผักบุ้งแก้ว

1,288 ครั้ง
|
17 ก.ย. 2563
ในวันเว้นวัน ตั้งแต่เช้ามืด นายสมชาย แสงแก้ว อายุ 67 ปี ชาวบ้านวังฉำฉา ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จะออกมาเก็บยอดผักบุ้งแก้ว ในพื้นที่นาข้าวประมาณ 2 ไร่ ที่ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นพื้นที่ปลูกผักบุ้งแก้ว เพื่อเก็บขายสร้างรายได้ทุกวันแทน
 
ซึ่งในแต่ละครั้ง นายสมชาย จะเก็บผักบุ้งแก้วให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพราะไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ไม่พอต่อความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าผัก และร้านขายก๋วยตี๋ยวหรือร้านอาหาร ที่มีความต้องการผักบุ้งแก้ว เพื่อไปประกอบอาหารเพื่อจำหน่ายและรับประทานกันภายในครัวเรือน
 
นายสมชาย บอกว่า ถึงแม้ว่าจะมีความต้องการผักบุ้งแก้วจำนวนมาก แต่ตนเองก็จะเลือกเอาเฉพาะยอดผักบุ้งที่ได้ขนาด ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป เพื่อให้ผักบุ้งแก้วที่ซื้อไปสามารถนำไปประกอบอาหารได้เพียงพออย่างน้อยก็สำหรับอาหารแต่ละมื้อของชาวบ้าน โดยตนเองขายผักบุ้งแก้ว กำละ 5 บาท ซึ่งขนาด 1 กำของตนเอง มีขนาดใหญ่แบบกำมือใหญ่ ผู้ที่ซื้อไปสามารถนำไปแกงส้ม หรือแกงเทโพได้ประมาณ 1 หม้อสำหรับประทานในครัวเรือน 
  
จึงทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนเลือกซื้อกันทุกวัน โดยตนเองจะนำเอาไปตัดแต่งจัดกำก่อนที่จะนำไปวางขายที่ บริเวณตลาดกิโล10 หรือ บริเวณ สามแยกบ้านกกไม้แดง ถนนทางหลวงหมายเลข 11 อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เส้นทางแยกเข้าอำเภอเนินมะปราง
 
นายสมชายเล่าว่า ตนเองเป็นชาวนา ทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ราคาตกต่ำขายข้าวไม่ได้ราคา มีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายต้นทุนการเพาะปลูก จึงเลิกทำนาและได้คิดหาหนทางออกเพื่อให้ครอบครัวมีรายได้ทุกวัน แบบลงทุนไม่ต้องเยอะ จึงลงทุนไปซื้อเมล็ดพันธุ์ ผักบุ้งแก้วมา 500 บาท เพาะปลูกในบ้านให้ได้ขนาดก่อนนำไปลงแปลงนา ที่ปล่อยน้ำท่วมประมาณครึ่งหน้าแข้ง แล้วก็คอยบำรุงด้วยน้ำปุ๋ยชีวิตภาพ เพื่อลดต้นทุนการเพาะปลูก 
 
พอโตได้ขนาดก็จัดเก็บขายได้เลย และที่สำคัญตลอดระยะเวลา 2 ปี ไม่ต้องเสียเงินทุนซื้อเมล็ดพันธุ์หรือปุ๋ยยา สารเคมี เพิ่มเติมอีกเลย แต่ยังคงสามารถเก็บ ผักบุ้งแก้วขายกำละ 5 บาท ได้ไปเรื่อยๆ นายสมชาย บอกว่าการทำนาปลูกข้าว ขายข้าวแต่ละครั้งได้เงินมากก็จริง แต่ต้องลงทุนสูง มีค่าใช้จ่ายมากมาย ส่วน การปลูกผักบุ้งแก้ว ใช้เงินลงทุนน้อยมาก ต้องออกแรงทุกวัน เพื่อนำไปทยอยขายแต่ได้เงินทุกวันเช่นกัน
 
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/6qk3W7zqSjY

ข่าวที่เกี่ยวข้อง