แก้วสรร เตรียมยื่นหนังสือถึงผู้บริหารฯ ให้ระงับการใช้พื้นที่ชุมนุมของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่เห็นใช้ มธ. เป็นฐานทัพในการละเมิดรัฐธรรมนูญ ด้านแกนนำยืนยันเดินหน้าต่อ ลั่น "ปรีดีอนุญาต"
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะศิษย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงเตรียมส่งเรื่องถึงกรรมการสภามหาวิทยาลัย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ระงับการใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยเพื่อการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในวันที่ 19 ก.ย. นี้ (ปิด มธ. พอกันทีวีรชน)
โดยระบุว่า บรรดาศิษย์เก่าธรรมศาสตร์เห็นว่า นักศึกษา "แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ไม่มีทั้งความโปร่งใส ,ความรักผิดชอบ และความสามารถที่จะจัดชุมนุมโดยสงบสมตามที่กล่าวอ้างได้ จึงขอเรียนไปยังผู้ที่รับผิดชอบ ได้โปรดพิจารณามีคำสั่งปฏิเสธ คำขอใช้พื้นที่ชุมนุมในมหาวิทยาลัยของนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย ตามเหตุผลดังนี้
1)เป้าประสงค์ : กลุ่มนักศึกษาผู้ขอจัดการชุมนุม แถลงยืนยันไว้ชัดเจนว่า จะเปิดชุมนุมนักศึกษาและประชาชน 1 วัน 1 คืน จากนั้นจะเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลตัวเลขโดยประมาณอยู่ที่ 40,000 คนขึ้นไป เพื่อ "ต่อสู้สร้างแผลให้เผด็จการอย่างไม่รู้ลืม" และสัญญาว่า "พี่น้องจะไม่กลับมือเปล่าอย่างแน่นอน"
2)สงบแต่ปาก : ขบวนที่จะมารวมและยกไปทำเนียบนี้ กลุ่มศิษย์เก่ากลุ่มนี้เห็นว่ามี
คุณภาพเป็นมวลชนแห่งความจงเกลียดจงชัง ที่ผ่านการปลุกปั่นมายาวนานในโลกไซเบอร์ซึ่งเมื่อออกจากทวิตเตอร์มารวมตัวกันจริงๆบนท้องถนนแล้ว ก็ยิ่งจะก้าวร้าวราวกับเร้ดการ์ดจนยากที่จะเชื่อหรือหวังในความสงบและการเจรจากันเช่นวิถีทางประชาธิปไตยได้
3)สุ่มเสี่ยงสูงสุด : สำหรับความสามารถและความรับผิดชอบนั้น ก็มองไม่เห็นเลยว่า
นักศึกษากลุ่มนี้จะมีความสมารถในการนำ ควบคุม จัดการ คุ้มครอง ผู้ชุมนุมได้อย่างไรเห็นมีแต่ความสามารถทางวาทะกรรมเท่านั้นคำกล่าวที่ว่าจะชุมนุมโดยสงบจึงเป็นเรื่องเกินศักยภาพทั้งสิ้น ยิ่งวางแผนว่าจะเทม็อบ 40,000 คนใส่ทำเนียบรัฐบาลด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าห่วงว่า จะได้เห็นร่างวีรชนต้องจากไปอีกหลายคนเหมือนคราวที่เทม็อบพฤษภาทมิฬอีก
4)ไว้วางใจไม่ได้ : ท้ายที่สุดกลุ่มศิษย์เก่าเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่นักศึกษากลุ่มนี้จะมีการนำและการจัดการโดยอิสระลำพังกลุ่มตนเองได้ แทนที่นักศึกษาและคนพวกนี้จะกล้าประกาศรวมตัวให้ปรากฏเป็น "แนวร่วมต่อต้านเผด็จการ" ที่โปร่งใสชัดเจน ชัดทั้งการนำและอิสระทางการเมืองตลอดจนที่มาของค่าใช้จ่ายและจุดแห่งชัยชนะที่ต้องการ พวกเขากลับดันให้เด็กนักศึกษาของเราไม่กี่คนมาออกหน้า ความลับๆล่อๆเช่นนี้ เป็นไปแล้วและเป็นไปได้ก็ด้วยเหตุที่กฎหมายชุมนุมสาธารณะได้ยกเว้นไว้ ไม่ให้นำมาตรการตรวจสอบมาใช้กับกาชุมนุมในสถานศึกษาจนเปิดช่องให้มีการวางแผนเลี่ยงกฎหมาย โดยขอจัดชุมนุมในมหาวิทยาลัยส้องสุมกำลังก่อน แล้วยกขบวนออกไปอาละวาดนอกมหาวิทยาลัยต่อไป
5)ธรรมศาสตร์มีส่วนร่วมด้วยไม่ได้ : ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ศิษย์เก่าท้ายบันทึกดังกล่าวจึงเห็นว่าคำขอจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ไม่มีความสามารถและความรับผิดชอบที่ต่ำกว่ามาตรฐานประชาธิปไตย จนไม่อาจรับรองให้ชุมนุมโดยอิสระในสถานศึกษาได้
นายแก้วสรร ยังมองว่า ปัจจุบันมีกฎหมายชุมนุม กำหนดไว้ว่าการชุมนุมสาธารณะ ห้ามข้ามคืน หรือถ้าอยู่เฉยๆก็ห้ามใช้ลำโพง และจะต้องมีการกำหนดรายชื่อที่มาค่าใช้จ่าย ผู้รับผิดชอบแผนการระยะเวลาในการชุมนุมให้ชัดเจนเพื่อขออนุญาต ซึ่งหากมีการกระทำผิดก็สามารถขอคำสั่งศาลยุติการชุมนุมได้ แต่กฎหมายนี้ไม่นำมาใช้สำหรับกิจกรรม และการชุมนุมในสถานศึกษา ทำให้เชื่อว่า เป็นแผนที่จะเทคน ใส่บริเวณข้างนอก มธ. โดยอาศัยธรรมศาสตร์เป็นที่ตั้ง เพื่อที่จะทำให้อยู่ในกฎหมายนี้ ซึ่งเป็นการเลี่ยงกฎหมาย // สิ่งที่ตนไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้สิทธิเสรีภาพ แต่เป็นสิทธิการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่ตนเป็นศิษย์เก่าไม่เห็นด้วยที่จะใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นฐานทัพในการละเมิดรัฐธรรมนูญ // พร้อมยืนยันคณะที่ออกมาคัดค้าน มาในนามศิษย์เก่าเท่านั้น ไม่ใช่ในนามธรรมศาสตร์ทั้งหมด
พร้อมกันนี้นายแก้วสรร ยังได้ขยายความถึงประเด็นที่จะชูในการคัดค้านนั้นว่า จะใช้คำว่า ปิด มธ. พอกันทีวีรชน โดยนายแก้วสรรอธิบายว่า วีรชนคือผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามทางการเมือง ที่ไม่มีใครรับผิดชอบ ซึ่งทางกลุ่มไม่ต้องการจะเห็นอีก
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จะมีกระบวนการลงชื่อท้ายหนังสือดังกล่าว ซึ่งจะใช้เวลาร่วมลงชื่อ จนถึงวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้ ก่อนที่จะนำไปยื่นต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่อไป
ขณะที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ยืนยันจะจัดชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.ทวงอำนาจคืนราษฎร หลังจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกเอกสารไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ โดยอ้างไม่เป็นไปตามเงื่อนไข โดยยืนยันว่าทางกลุ่มได้ดำเนินการตามขั้นตอน มีอาจารย์ที่ปรึกษาเซ็นรับรองถูกต้อง
ทั้งนี้ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น น.ส.ปนัสยา ได้นำพวงหรีดที่มีดอกไม้สีแดงเหลือง ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมขอความ อาลัยจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ไปวางไว้ด้านหน้าลานปรีดี พนมยงค์ พร้อมชู 3 นิ้ว กล่าวว่า “จะเป็นเด็กดื้อต่อไป ไม่ฟังคำสั่งอธิการบดีคนปัจจุบัน และฝันว่า พ่อปรีดีและทนายอานนท์ มาบอกให้ใช้ธรรมศาสตร์จัดชุมนุม 19 ก.ย.นี้ได้”