มาต่อกันที่ข่าวสลดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมืองไทย เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยายนต์โดยเฉพาะบิ๊กไบค์
เช่นเดียวกันกับข่าวใหญ่ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เมื่อ หนุ่มวัย 21 ปี ขับขี่บิ๊กไบค์ด้วยความเร็ว เมื่อถึงทางโค้งได้เสียหลักล้มไถลไปกับถนน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถยนต์เก๋ง ขับสวนทางลงมา บิ๊กไบค์คันดังกล่าวจึงไถลชนด้านหน้าอย่างจัง ทำให้หนุ่มวัย 21 ปีคนนี้เสียชีวิต
และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันคือกรณีของนักสตรีมเกมวัย 17 ขับบิ๊กไบค์ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนประมาณ 20 คัน ระหว่างทางเ กิดเหตุโครงรถหลุดออกทำให้รถสะบัด ไม่สามารถควบคุมรถได้และเสียหลักพุ่งชนเกาะกลางก่อนรถจะไปปะทะกับต้นไม้ ส่งผลให้หนุ่ม 17 ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมว่า เหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับบิ๊กไบค์แล้วจะมีข้อกำหนดหรือมาตรการอะไรที่จะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้
ปัจจุบันนี้ เรามีการทำใบขับขี่บิ๊กไบค์โดยเฉพาะแล้ว และเกณฑ์ในการทำมีอะไรบ้าง แตกต่างการจากทำใบขับขี่จักยานยนต์ทั่วไปอย่างไร
กรมการขนส่งทางบก เขาเล็งเห็นถึงปัญหานี้ โดยล่าสุด ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. ....
โดยร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ก็จะมีการปรับให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะมีการเพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง หรือบิ๊กไบค์ให้เข้มงวดมากขึ้น
สำหรับเกณฑ์ใหม่ที่จะนำมาบังคับใช้กับ ผู้ใบขับขี่บิ๊กไบค์ ประกอบด้วย
1.ผู้ขับขี่จะต้องมีอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์
2.ต้องเคยมีใบขับขี่รถจักรยายนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งเท่ากับว่าผู้ขับขี่จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี โดยใบขับขี่จะมีอายุ 5 ปี
3.จะมีการสกรีนรูปรถบิ๊กไบค์ไว้บนบขับขี่เพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ให้ชัดเจน
4.ต้องผ่านการฝึกอบรมการขับขี่เฉพาะตามหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ที่กรมการขนส่งกำหนดจัดทำขึ้น เมื่อผ่านการอบรมแล้วจะต้องสอบขอรับใบขับขี่ใหม่เป็นการเฉพาะ
5.ส่วนของการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติโดยในส่วนของการสอบภาคปฏิบัติการขับขี่นั้นต้องมีการขับทดสอบในสนามจริง เบื้องต้นอาจจะใช้สนามของเอกชน เพื่อทดสอบความสามารถในการควบคุมรถในสถานการณ์จริง
เหตุผลที่การทำใบขับขี่รถบิ๊กไบค์ต้องเข้มงวดขนาดนี้ ก็เพราะรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป เป็นพาหนะที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ผู้ขับขี่ต้องมีประสบการณ์การใช้งาน เพราะรถมีสมรรถนะค่อนข้างสูง กำลังแรง และน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นการใช้รถต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บนท้องถนน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการกรมการขนส่ง ระบุไว้ว่า ปัจจุบันมีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป จดทะเบียนทั้งสิ้น 216,547 คัน จากจำนวนรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 21,284,775 คัน