มาต่อกันที่ข่าวที่ทำให้พวกเราต้องฉุกคิด ว่าอะไรที่ปกติต้องผ่านขั้นตอนหลายอย่างกว่าจะได้มา แต่อยู่ ๆ ก็มีคนเสนอวิธีที่จะทำให้เราได้มันมาง่ายๆ เราควรจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนไหม ยิ่งในยุคที่มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เรายิ่งต้องเช็คให้แน่ใจ เพราะสิ่งนั้นอาจจะนำความซวยมาให้คุณอย่างไม่รู้ตัว
อย่างเรื่องราวของหนุ่ม อายุ 29 ปี คนหนึ่งที่พัทยา หลงกลทำใบขับขี่ผ่านเน็ต กับร้านทางเฟซบุ๊ก ที่เขาโฆษณาว่ารับทำใบขับขี่ แบบที่ไม่ต้องเดินทางไปทำด้วยตนเอง ไม่ต้องรอคิวนาน และทำเสร็จภายในวันเดียว จึงชวนเพื่อนอีก 3-4 คนไปทำด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท ต่อใบขับขี่ 1 ใบ
โดยหนุ่มคนนี้ได้ติดต่อผ่านทางไลน์ ชื่อ Mr.พงษ์ เมื่อได้พูดคุยและตรวจดูโปรไฟล์พบว่าดูน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจโอนเงินค่าทำบัตรใบขับขี่ เข้าบัญชีธนาคารที่ฝ่ายนั้นส่งให้
ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้รับข้อความว่า ใบขับขี่เสร็จแล้ว จนเมื่อได้รับใบขับขี่มา ตรวจสอบดูพบความผิดปกติ จนมารู้ว่าเป็นใบขับขี่ปลอม จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองพัทยา
เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์ให้เป็นอย่างดี และทางกรมการขนส่งได้ออกมาเน้นย้ำในเรื่องนี้ด้วยว่า ใบขับขี่ไม่มีขาย และใบขับขี่จะต้องออกโดยกรมการขนส่งทางบก และผู้ทำใบขับขี่ต้องผ่านการอบรมและทดสอบด้วยตนเองทุกขั้นตอนเท่านั้น! ซึ่งคุณสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่าน แอปพลิเคชั่น DTL Smart Queue โดยเลือกสำนักงานขนส่ง วันที่ และเวลาได้ด้วยตนเอง
โดยคนที่ขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ จะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพ ไม่ว่าจะเป็นทดสอบตาบอดสี,ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบสายตาทางกว้าง, ทดสอบการตอบสนองของเท้า / อบรมภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง / สอบข้อเขียนให้ผ่าน 90% และสอบปฏิบัติ
ส่วนคนที่มีแพลนจะต่อใบขับขี่ ตอนนี้ทางกรมการขนส่งทางบก เขาก็เปิดให้มีการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปรับชมวิดีโอการอบรมได้ที่บ้านคุณเลย โดยวิดีโอในการอบรม จะมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างที่คุณดูวิดีโอ จะมีคำถามสุ่มขึ้นมา 3 ข้อให้คุณตอบ คุณต้องตอบให้ครบ
จากนั้น คุณก็เอามูลนี้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่กรมขนส่งใกล้บ้านได้เลย แต่ก่อนที่คุณจะไป คุณต้องจองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น “DLT Smart Queue” เพื่อที่จะเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายที่กรมการขนส่ง และออกใบอนุญาตขับรถต่อไป
โดยผู้ขับขี่ที่ครอบครองใบขับขี่ปลอม ถือว่าผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 หากผู้ขับขี่ใช้ใบอนุญาตขับขี่ปลอม จะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการ มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับ 1,000-10,000 บาท นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปก่ออาชญากรรมด้วย
อย่างไรก็ตาม ใบขับขี่ที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกปัจจุบันเป็นแบบสมาร์ทการ์ด (Smart card) ตัวบัตรเคลือบด้วยเทคโนโลยีโฮโลแกรม มีแถบแม่เหล็ก ป้องกันการปลอมแปลง และมีเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด สามารถแสดงใบอนุญาตขับรถอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT QR Licence ได้