หนุ่มซื้อรถอยู่ดี ๆ ถูกตำรวจบุกรวบตัวพาไปโรงพักแต่ไม่แจ้งข้อหา ส่วนคนขายรถเชิดเงินแสนหนี คดีนี้มีพิรุธหลายอย่าง แม้ตำรวจจะจับคนร้ายได้แล้ว
วันที่ 26 ก.พ. 68 คุณ บาส ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนมีเพื่อนอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ทำอาชีพนายหน้าซื้อขายรถมือสอง ตนได้รับข้อเสนอให้ไปซื้อดาวน์ 305,000 บาท แล้วไปปิดบัญชี 500,000 บาท นัดซื้อขายกันเมื่อเดือน ต.ค. 67 ที่จังหวัดชลบุรี มีน้องสาวของเจ้าของรถเป็นผู้นำรถมาให้ อ้างว่าเจ้าของรถจะตามมาภายหลัง
ตนจึงไปกดเงิน 305,000 บาท เพื่อมาจ่ายดาวน์ ด้วยความรอบคอบจึงตรวจสอบเอกสาร ถ่ายภาพพร้อมโอนเงินเข้าบัญชีของอีกฝ่าย แต่ขณะที่กำลังนับเงิน มีตำรวจประมาณ 8 คน บุกเข้ามาจับตนกับนายหน้าอ้างว่าเป็นผู้ต้องหาหมายเลขหนึ่งแต่ไม่แจ้งข้อหา ส่วนผู้ขายรถวิ่งหนีไปพร้อมเงินสด 300,000 บาท เมื่อไปถึงโรงพักตนไม่ถูกแจ้งข้อหาอะไร จากนั้นจึงปล่อยตัวกลับบ้าน
ตัดสินใจไปแจ้งความพร้อมขอภาพกล้องวงจรปิด จึงทราบว่าตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุนานแล้ว จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงไม่ยอมจับกุมผู้ขายตั้งแต่แรก ต่อมามีผู้อ้างว่าเป็นผู้มากบารมีติดต่อมาให้เจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ตนหยุดแจ้ง 157 กับตำรวจแลกกับเงินที่เสียไป สุดท้ายเจรจาไม่ลงตัว ผ่านมาหลายเดือนคดีไม่คืบ แม้ว่าตำรวจจะจับผู้ขายได้ เนื่องจากตำรวจอ้างว่าตนได้รับเงินเยียวยาจึงสิ้นสุดการทำคดีทั้งหมด
รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต วิเคราะห์ว่า การจับกุมของตำรวจมีพิรุธ ถ้าหากอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า จะต้องจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องแจ้งข้อหาให้ทราบ หลังจากนี้ต้องไปตรวจสอบหาความเชื่อมโยงระหว่างตำรวจกับผู้ขายรถที่หลบหนีไปได้ และจะต้องพิจารณาว่าตำรวจที่ทำแบบนี้ยังสมควรเป็นตำรวจอยู่หรือไม่
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า ถ้าหากมีการทำเป็นขบวนการ ส่วนการจับกุมตัวของตำรวจมีความน่าสงสัย เนื่องจากไม่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไม่มีหมายจับ และไม่ได้จับผู้ขายรถที่เชิดเงินหนีไป ส่วนการแจ้ง 157 กับตำรวจ แม้ว่าตำรวจจะสามารถจับผู้ขายได้ แต่ความผิดดังกล่าวถือว่าสำเร็จแล้ว และเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้
พ.ต.อ. จักรพันธุ์ กิตติสิริพรกุล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ชี้แจงว่า คดีของคุณบาสเป็นการซื้อรถหลุดจำนำ ตำรวจได้เชิญไปโรงพักเพื่อซักถามปากคำแต่ไม่มีการยัดข้อหา จากนั้นญาติของผู้ต้องหาได้ติดต่อผ่าน กต.ตร.ท่านหนึ่ง เพื่อคืนเงินให้ทั้งหมด และมีการดำเนินคดีกับผู้ขายรถแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าในเมื่อได้เงินคืนแล้ว ทำไมถึงมาเรียกร้องเพิ่มอีก ส่วนการเยียวยาค่าเสียหาย ตนแนะนำไปแล้วว่าให้ไปฟ้องทางแพ่งได้เลย พร้อมได้นำกรณีนี้ไปถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม