ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งความขม “King of the Bitterness” ที่มากด้วยสรรพคุณ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบทวีปเอเชีย และถูกนำมาใช้รักษาโรคอย่างแพร่หลาย เช่น ไทย ลาว พม่า จีน อินเดีย และศรีลังกา นิยมนำฟ้าทะลายโจรมาใช้แก้ฝี แก้อักเสบ รักษาโรคบิด โรคไข้หวัด โรคท้องเสีย แก้โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ รวมถึงเป็นยาขมเจริญอาหาร เป็นต้น ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรกลายเป็นหนึ่งในสมุนไพรยอดนิยมที่ใช้ในการรักษาอาการป่วยเบื้องต้น โดยฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญชื่อว่า andrographolide เป็นสารที่ให้รสขมมาก ไม่มีสี และสามารถตกผลึกได้ ดังนั้นเพื่อการหลีกเลี่ยงรสขมในการรับประทานจึงนิยมแปรรูปเป็นยาแคปซูล
กว่าจะมาเป็นฟ้าทะลายโจรแคปซูล
ฟ้าทะลายโจรต้องใช้เวลาในการปลูกประมาณ 3 – 5 เดือนจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยจะเก็บเกี่ยวในช่วงที่พืชออกดอกตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงช่วงที่ดอกบานร้อยละ 50 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีสารสำคัญสูงสุด ซึ่งจะพบมากที่ส่วนใบ หลังการเก็บเกี่ยวจะนำไปคัดแยกสิ่งปนเปื้อน เช่น วัชพืชที่ปะปนมา หลังจากนั้นจะล้างทำความสะอาด และตัดเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 3 - 5 เซนติเมตร ก่อนนำไปผึ่งและทำแห้งโดยการตากแดดบนลานตากยกพื้นมีวัสดุรองรับที่สะอาด หรือใช้เครื่องอบแห้งแบบลมร้อนที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส เวลา 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40 - 45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท จะได้วัตถุดิบตั้งต้นชั้นดีก่อนเตรียมบรรจุลงในแคปซูล เพื่อความสะดวกในการรับประทาน
เปิดแคปซูล เจาะลึกประโยชน์และสรรพคุณของฟ้าทะลายโจร
จากฟ้าทะลายโจรที่เราคุ้นเคยกันดีในบทบาทของสมุนไพรรักษาโรคที่มาในรูปแบบแคปซูลเพื่อให้รับประทานได้สะดวกวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกประน์และสรรพคุณกัน ฟ้าทะลายโจรได้รับการบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2542 (บัญชียาสมุนไพร) ของกระทรวงสาธารณสุข มีข้อบ่งใช้ในการรักษาอาการไข้ อาการเจ็บคอ ช่วยลดอาการเป็นหวัด แก้โรคท้องเสียไม่ติดเชื้อ ฟ้าทะลายโจรมีสารสําคัญที่พบมาก ได้แก่ andrographolide, neoandrographolide, deoxyandrographolide, 12 didehydroandrographolide, andrographolide (C20H30O5) จากรายงานผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สรุปได้ว่า ...สารสกัดสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย เช่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ระงับการติดเชื้อหรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ยับยั้งเชื้อมาลาเรียในหลอดทดลอง ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้ดี ช่วยลดความดันในเลือด และฆ่าเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง
ขนาดรับประทาน
ผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรแคปซูลในท้องตลาดมี 2 รูปแบบ คือ แบบผงอัดแคปซูล และแบบสารสกัด สำหรับขนาดรับประทานแนะนำให้ใช้ฟ้าทะลายโจร ดังนี้
1. ฟ้าทะลายโจรแบบผงอัดแคปซูล รับประทานครั้งละ 3 - 5 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน (ปริมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อครั้ง เทียบเท่าผงฟ้าทะลายโจรปริมาณ 6 กรัมต่อวัน)
2. ฟ้าทะลายโจรแบบสารสกัด รับประทานครั้งละ 1 – 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน (ปริมาณสาร andrographolide 18 - 20 มิลลิกรัมต่อครั้ง เทียบเท่าสาร andrographolide 54 -60 มิลลิกรัมต่อวัน)
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม และห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร รวมถึงห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยที่เจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรีย
คำเตือน
ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรรสขมจัด มีฤทธิ์เย็น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขน ขามีอาการชาหรืออ่อนแรง รู้สึกหนาวเย็นภายในเนื่องจากเสียสมดุลธาตุ และควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม ยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ยาลดความดันเลือดเพราะอาจเสริมฤทธิ์กันได้
ข้อแนะนำ
หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการรุนแรงมากขึ้น หรือมีอาการแพ้ยา ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์ทันที
ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรขึ้นแท่นสินค้ายอดนิยม ในฐานะหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำคัญที่สามารถต่อสู้กับไวรัสโคโรนาได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้สังคมหันกลับมาให้ความสนใจฟ้าทะลายโจรกันอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาด ผลิตออกมาเท่าไหร่ก็ดูจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกับการรักษาโรคโวคิด-19 ว่า ฟ้าทะลายโจรนั้นมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อ จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค โดยที่ยังไม่มีอาการ เพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่น หากรับประทานแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์
นอกจากนี้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมมือภาคีเครือข่าย ริเริ่มวิจัยและทดลองการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาในมนุษย์ ซึ่งต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องศึกษาในหลายมิติ ทั้งประสิทธิภาพในการรักษาและความปลอดภัย
จะเห็นได้ว่า ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมหาศาล สามารถใช้รักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมายและเป็นที่ยอมรับในแวดวงตำรับยาสมุนไพรไทย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสมุนไพรไทยที่พร้อมจะตีตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอกย้ำคุณภาพของสมุนไพรไทย แม้ว่าสมุนไพรจะปลูกได้หลากหลายพื้นที่ แต่สมุนไพรที่ดีที่สุด คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ต้องมาจากประเทศไทยเท่านั้น