จับพิรุธ! คำให้การก่อนตาย “จารุชาติ มาดทอง” พยาน บอส อยู่วิทยา
logo TERO HOT SCOOP

จับพิรุธ! คำให้การก่อนตาย “จารุชาติ มาดทอง” พยาน บอส อยู่วิทยา

4,097 ครั้ง
|
14 ส.ค. 2563

คดีของนายบอส “วรยุทธ อยู่วิทยา”เข้มข้นขึ้นมาอีกหลังการออกมาให้ข้อมูลของ “พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น”ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ต่อคณะกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้(13 สค.) ทำให้เห็นข้อพิรุธเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะเรื่องความเร็วรถ จากเดิมทราบกันว่า “พ.ต.อ.ธนสิทธิ”เปลี่ยนความเร็วรถบอสจ าก 177 กม./ชม. เป็น 79.23 กม./ชม. ตามสูตรของ “ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม” แต่เมื่อวาน (13 สค.)  พ.ต.อ.ธนสิทธิ ให้ข้อมูลใหม่ว่า จริงๆ เขาเปลี่ยนความเร็วกลับไปเป็น 177 กม./ชม. ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2559 แล้วเพราะพบว่าการคำนวณดร.สายประสิทธิ์ ผิดพลาด แต่ “พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี”พนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีความเร็วรถหมดอายุความไปแล้วและส่งสำนวนให้อัยการแล้ว หมดหน้าที่ของตำรวจแล้ว

ที่สำคัญปรากฏว่าในวันที่ 21 ก.ค. 2559 หลังจาก ที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ บอกว่าเปลี่ยนความเร็วกลับไปที่ 177 กม./ชม.แล้ว คณะทำงาน ของกรรมาธิการกฎหมายของ สนช. ที่มี “นายธานี อ่อนละเอียด” สมาชิก สนช. ขณะนั้น เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ได้เชิญ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ไปให้ข้อมูล แต่เมื่อไปถึงคณะกรรมาธิการกลับไม่ได้ให้ชี้แจง โดยแจ้งว่าจะเชิญมาวันหลัง แต่ก็ไม่ได้เชิญมาอีก

 

ซึ่งเมื่อดูในรายงานของคณะกรรมาธิการกฎหมาย สนช. พบว่า วันนั้น “พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี”พนักงานสอบสวนมาให้ข้อมูล โดยอ้างข้อมูลความเร็วเดิมของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ คือ 79.23 กม./ชม.   นี่คือจุดพิรุธ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคณะทำงาน ของคณะกรรมาธิการตั้งใจไม่ให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ให้ข้อมูลหรือไม่ และ พ.ต.อ.วิรดล ก็รู้อยู่แล้วว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ ขอเปลี่ยนคำให้การกลับไป 177 กม./ชม. เหมือนเดิม เพราะ รายงานของ ดร.สายประสิทธิ์ ผิดพลาด แต่ทำไมยังให้การต่อ สนช. เช่นนั้น  และเป็นเหตุให้ สนช. ทำรายงานสอบข้อเท็จจริง โดยยึดการคำนวณของแนวทางของ ดร.สายประสิทธิ์  จนนำมาสู่การพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ ของอัยการในที่สุด

 

ล่าสุดทีมข่าวการเมืองช่อง 3 ได้สำนวนของพนักงานสอบสวนที่ส่งให้อัยการหลังมีการสอบพยานเพิ่ม ซึ่งเป็นสำนวนที่ทำให้นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ และมีข้อมูลที่ทำให้เห็นข้อพิรุธเพิ่มขึ้นอีก

พบว่า 8 ก.ย. 2555 นายจารุชาติ มาดทอง ได้ให้การครั้งแรก อ้างว่า ขับรถอยู่ในที่เกิดเหตุ คนละเลนกับ นายบอส  และเห็นว่า “ด.ต.วิเชียร” ขับรถตัดหน้า จากเลนที่1 ไปเลนที่3  และจากนั้นได้ยินเสียงรถชนกัน แต่ไม่ทันสังเกตุว่ามีรถตามหลังมาหรือไม่  และไม่ได้พูดถึงเรื่องความเร็วรถในคำให้การ

แต่หลังจากนั้นผ่านไป 7 ปี มีการสอบสวนเพิ่มเติมในวันที่ 6 ธันวาคม 2562 (ก่อนจะมาเสียชีวิตในปี 2563) หลังจากที่ สนช. ส่งรายงานการศึกษาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้อัยการแล้ว  นายจารุชาติ กลับให้การเพิ่มว่า ตนขับรถด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม. และ นายวรยุทธ ขับมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.เช่นกัน ทั้งที่ครั้งแรกบอกว่าไม่เห็นรถของนายบอส แต่ครั้งที่2 กลับรู้ถึงขั้นความเร็วรถของนายบอส

 

ตรงนี้ก็ถูกตั้งคำถามด้วยว่า นายจารุชาติ มาให้ปากคำเพิ่มได้ในปี 2562  แต่ทำไมไม่สามารถเพิ่มข้อมูลความเร็วรถของ พ.ต.อ. ธนสิทธิ ที่พยายามขอเปลี่ยนความเร็ว 79.23 กม./ชม. มาเป็น  177 กม./ชม.เหมือนเดิมตั้งแต่ มีนาคม 2559  แต่ไม่สามารถนำเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในสำนวน  ทำให้คำให้การในสำนวนยังคงเป็นข้อมูลของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ที่บอกความเร็วเป็น 79.23 กม./ชม. อยู่เหมือนเดิม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง