จากกรณี เมื่อ ปี 2555 นายสามารถ โพธิ์ประสิทธิ์ อายุ 58 ปี ลูกจ้างชั่วคราว อบต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อม ภรรยา นาง อำไพ โพธิ์ประสิทธิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 4 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้น มีพื้นที่ 96 ตารางวา โดย เมื่อประมาณปี 2555 มีคนที่นับหน้าถือตากันในหมู่บ้านมาขอร้องให้ค้ำประกันรถยนต์ให้คนหนึ่งก็เคยเห็นหน้า 2-3 ครั้งและก็ไม่ได้ที่จะมาพูดคุยกัน ไม่รู้จักด้วย ก็ค้ำประกันรถยนต์กระบะมือสองให้ไป หลังจากนั้นเห็นเขาอยู่ที่หมู่บ้านประมาณ 2-3 เดือน แล้วก็หายไป เขามาอยู่กับคนที่เรานับหน้าถือตา บอกช่วยค้ำให้จะไม่ทำให้เดือดร้อน เห็นว่าเป็นคนที่นับถือกันก็ปฏิเสธไม่ได้ ก็ค้ำให้เขาไป แล้วก็เห็นหน้ากันอยู่ประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นก็หายไป ก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน เราก็ไม่รู้ รถก็ไม่เคยเห็นไม่เคยนั่ง
ต่อมามีหนังสือมาหาและคาดว่า เขาคงไปออมซอมหนี้หรืออะไร โดยบ้านถูกยึดขายทอดตลาดโดยกรมบังคับคดีไปแล้ว ผู้ประมูลได้เป็นจำนวนเงิน 160,000 บาท แล้วมาขายคืนในราคา 870,000 บาท และมีการต่อรองมาเหลือราคา เงิน 600,000 บาท นางอำไพ คงไม่หนีไปไหน ถ้าว่าจะเสียบ้านไปจริงๆ ป้าอำไพก็ขอตายอยู่ที่นี้ เพราะป้าอำไพไม่มีที่ไป 10 ชีวิต ตอนนี้ลูกก็แยกย้ายครอบครัวไปเหลือเพียงสองตา ยาย นายอำไพ นายสามารถ กับหลานสาวน้อย
วันที่ 8 สิงหาคม นางอำไพ โพธิ์ประสิทธิ์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ก็เดินทางไปพร้อมนายสามารถ สามี สองคนตา- ยาย มีทนายฝ่ายเราพาขึ้นไปศาลไปรออีกฝ่ายก็ไม่มา สุดท้ายศาลก็เลือนนัดไปเป็นวันที่ 14 กันยายน นี้ โดยในวันนั้นคนที่ให้ค้ำรถไป จนถูกยึดรถ ลุง ป้าค้ำรถให้ก็เดินทางมาเขาก็บอกว่าเขารับผิดชอบ เขาบอกว่า เขาส่งค่างวดรถอยู่แต่ช่วงนั้นเขาตกงาน เขาขาดส่ง ก็เลยเป็นเรื่องยาวอย่างนี้ เขาบอกว่าตอนที่เขามาประนอมหนี้เขาก็มาคนเดียว ไม่เคยหนีไปไหน ติดต่อมาก็มาตลอด ฝ่ายป้าอำไพ ตอนนี้บ้านก็ขายไปแล้วไม่มีปัญญาจะไปซื้อคืน
โดยฝ่ายทนายที่ซื้อบ้านไปแจ้งมาก่อนแล้วว่า ลดให้จาก 600,000 แสนบาท เหลือ 300,000 บาท นายสามารถกับนางอำไพก็ไม่ทราบว่าจะหาเงินได้จากที่ไหน ทนายที่ซื้อบ้านบอกต้องมาเซ็นต้องมีเงิน300,000 บาท แต่ถ้าไม่มีเงิน 300,000 บาท เขาจะให้ผ่อนเดือนละ 6,500 บาท 15 ปี นางอำไพบอกว่าป้าจะมีอายุถึง 15 ปีหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฝ่ายทนายที่ซื้อบ้านไปก็บอกไม่รู้ต้องมาคุยกัน ถ้าป้าอำไพไม่มีตังค์มาซื้อตอนนี้ป้าก็หมดโอกาส ถ้าขึ้นศาลก็ขอความเป็นธรรมให้ด้วยบ้านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน บ้านนี้สร้างมาอยู่มาตั้งแต่สาวมีอายุขนาดนี้ก็ทำได้แค่นี้ เกี่ยวหาเงิน 300,000 บาท นี้ ทางป้าอำไพ ก็ไปถามทางธนาคารที่เคยกู้เงิน ทางธนาคารบอกว่า ป้าโดนยึดบ้านเครดิตอะไรก็หายหมด ไม่มีใครเขาให้กู้ ขนาดรถจะไปรีไฟแนนซ์รถกู้เขาก็โทรบอก ยกเลิก ตอนนี้ก็รอไปพบศาลนนทบุรีวันที่ 14 กันยายน นี้ ไม่ทราบว่าศาลจะตัดสินอย่างไร
ฝ่ายผู้ซื้อรถบ้านก็อยู่นนทบุรี ไม่ยอมบอกว่าทำงานอยู่ที่ไหน แฟนก็กำลังท้อง ถ้าวันที่ 14 กันยายน นี้ศาลตัดสินให้ป้าอำไพต้องออกจากบ้านป้าอำไพก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ไหน ฝ่ายนายสามารถ ผู้เป็นสามีก็บอกว่าทนายที่ซื้อบ้านไปจะเอาบ้านนี้ไปขายให้กับใคร ถ้ามีเราสองคนตายอยู่ในบ้านนี้ ใครจะกล้าซื้อเรื่องลงข่าวถึงขนาดนี้ ถ้าลุงกับป้าตายในบ้านหลังนี้ใครเขาก็รู้ เจ้าของบ้านเขาตายคาบาน ใครจะมาซื้อ..ก็ลองดู ในเมื่อสร้างมาทั้งชีวิต ชีวิตก็ให้ได้เหมือนกัน นายสามารถ ผู้เป็นสามีบอกกับนางอำไพ ภรรยาไว้อย่างนั้น
ทุกวันนี้ นางอำไพ อาศัยเย็บผ้าเช็ดเท้าส่งโรงงาน พอมีรายได้ประทังชีวิต อยู่กันกับนายสามารถ สามีพร้อมหลานสาวน้อย รอ ไปพบศาลวันที่ 14 กันยายนนี้ ตัดสินชะตาชีวิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ อ่านเพิ่มเติม