สำหรับใครที่รอคอย “การลงทะเบียนบัตรคนจน” หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และรอมาเนิ่นนานตั้งแต่ช่วงต้นปี อยากจะลงทะเบียนรอบใหม่สักที เพราะรอบที่แล้วลงทะเบียนไม่ทัน เอกสารไม่ครบ ลงทะเบียนไม่ผ่าน หรือบางคนยังจนไม่พอ
ตอนนี้มีข่าวดีแย้มมาแล้วจาก นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) บอกกับทีมงานของเราว่า สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งตอนแรกจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เดือน ส.ค.แล้ว
ล่าสุด ผอ.ลวรณ บอกว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่หลังจากที่โควิดคลี่คลาย ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็เขียนหลักเกณฑ์ต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว รอเสนอรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่
ส่วนหลักเกณฑ์ก็จะเข้มกว่าเดิม จากเงื่อนไขในการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือ เป็นผู้ว่างงาน หรือมีรายได้ส่วนบุคคลไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี แต่สำหรับการลงทะเบียนรอบใหม่นี้ ผอ.ลวรณ บอกว่า จะพิจารณาจากรายได้รวมทั้งครอบครัว หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
โดยเกณฑ์การพิจารณาในรูปแบบใหม่นั้น ทำเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด แต่กลับมีฐานะดี เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากลูกหลาน หรือบุคคลอื่นในครอบครัว ส่วนเกณฑ์อื่นๆ ที่ใช้คัดว่า ใครจนจริง จนไม่จริง ก็ยังคงใช้เกณฑ์เดิมครับ คือ
คุณสมบัติบัตรคนจน
1.สัญชาติไทย
2. บุคคลนั้นๆ ต้องว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท
3. อย่างที่บอกไปแล้ว รายได้รวมทั้งครอบครัว หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
4.อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
5.ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้
6.ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย
และในเดือน ส.ค.นี้ พ่อแม่พี่น้องที่ถือบัตรคนจนอยู่แล้ว จะได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง
1.คุณจะได้เงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน อันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)
2.ค่าเดินทาง โดยรถโดยสารสาธารณะอันนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน (รถไฟฟ้านี่ก็คือของ รฟม.และ BTS ได้หมด)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน (เงินเข้า 1 ส.ค.ที่ผ่านมา)
3.ผู้สูงอายุที่มีบัตรคนจน ได้รับเงิน 50-100 บาท ตามเกณฑ์รายได้ เงินเข้า 15 ส.ค.63 ส่วนเกณฑ์ก็คือ ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท, ผู้สูงอายุ รายได้ 30,001-100,000 บาท ได้เงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท
4.ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาวันที่ 18 ส.ค.63
5.ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยเราต้องออกไปก่อน แล้วเงินจะโอนคืนมาวันที่ 18 ส.ค.63
ส่วนในเดือน ก.ย.นี้ ผอ.ลวรณ เผยว่า รัฐบาลจะยังสนับสนุนเงินให้สวัสดิการพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปโภคบริโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคน
เพิ่มเติม : - ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัว A มีสมาชิกในครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้เป็นพ่อสามารถหารายได้ 400,000 บาทต่อปี ส่วนคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่มีรายได้
วิธีคิด คือ รายได้พ่อ 400,000 บาท หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน = 100,000 บาท ย่อมเท่ากับว่า ครอบครัว A มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัว B มีสมาชิกในครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้เป็นพ่อสามารถหารายได้ 200,000 บาทต่อปี, ลูกชาย สามารถหารายได้ 300,000 บาทต่อปี
วิธีคิด คือ รายได้พ่อและลูกชาย 500,000 บาท หารด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัว 4 คน = 125,000 บาท ย่อมเท่ากับว่า ครอบครัว B ไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ