#ขนมสยาม ขนมเจ้าดัง ใครไม่กินไม่อินเทรนด์! เผยความสำเร็จ จากร้านรถเข็นข้างทาง สู่ร้านขึ้นห้าง รายได้สุดปัง
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

#ขนมสยาม ขนมเจ้าดัง ใครไม่กินไม่อินเทรนด์! เผยความสำเร็จ จากร้านรถเข็นข้างทาง สู่ร้านขึ้นห้าง รายได้สุดปัง

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : ในยุคที่มีโรคระบาด คำว่า New Normal ไม่เพียงแต่เข้าไปมีส่วนในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่กับภาคธุรกิจก็เปลี่ยนโฉมไปมาก ขนมสยาม,ร้านรถเข็นข้างทาง,KANOMSIAM,Rebranding,ธุรกิจช่วงโควิด,โควิด19,ขนมครกใบเตย

1,170 ครั้ง
|
09 ก.ค. 2563
ในยุคที่มีโรคระบาด คำว่า 'New Normal' ไม่เพียงแต่เข้าไปมีส่วนในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่กับภาคธุรกิจก็เปลี่ยนโฉมไปมาก เพื่อเอาตัวรอดและสามารถไปต่อได้ เช่น ธุรกิจอาหาร ที่ต้องเพิ่มช่องทางออนไลน์ ส่งเดลิเวอลี ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พอ...
 
 
วันนี้ 'รอดไปด้วยกัน' ได้มีโอกาสเจาะลึกร้านขนมครกใบเตยชื่อดัง 'ขนมสยาม' (KANOM SIAM) ที่ได้รับผลกระทบในยุคนี้เช่นกัน โดยเราได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน ที่เล่าให้ฟังว่า เจอวิกฤตก่อนช่วงโควิด-19 ด้วยซ้ำ แต่ก็ข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาได้ เขามีวิธีรับมืออย่างไร? 
 
 
คุณกรีเพชร หาญพงศ์พิพัฒน์ เจ้าของร้านขนมสยาม เล่าว่า วิกฤตแรกที่เจอคือ ทาง กทม. มีนโยบายจัดระเบียบผู้ค้า ตอนนั้นจึงต้องเลิกขาย แต่ด้วยความเชื่อว่า ขนมของร้านเป็นของดีคู่ย่านนั้นอยู่แล้ว จึงได้คุยกับครอบครัวว่าจะทำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ และนำขายขึ้นห้างฯ เพื่อให้เห็นว่าจากแบรนด์ข้างถนนก็สามารถไปได้ไกลกว่านั้น
 
 
โดยในระหว่างปรับภาพลักษณ์ เพื่อขยับขยายแบรนด์ขึ้นห้างฯ ใช้เวลาเกือบ 1 ปี ไปกับการหาพื้นที่ขาย ซึ่งต้องหยุดขายไปเลย จึงไม่มีรายได้ แต่โชคดีว่าที่บ้านมีการวางแผนทางการเงินที่ดี จึงมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ในช่วงวิกฤต โดยมีคติว่า "อะไรที่ไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องใช้ ใช้จากที่เหลือเก็บ"
 
 
นอกจากนี้ คุณกรีเพชร ยังเล่าถึงการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ (Rebranding) ว่า "ตอนนั้นได้นั่งดูคลิปเกี่ยวกับการปรับภาพลักษณ์ใหม่ด้วยกันกับครอบครัว เพื่อให้รู้ว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง จากนั้นก็ได้พูดคุยกันว่า จะวางโพสิชันแบรนด์แบบไหน สโลแกน รวมไปถึงภาพรวมทั้งหมด ซึ่งแต่ละคนก็ช่วยกันหาไอเดีย คุมโทนออกมาเป็นกลุ่มก้อน ดังนั้น ไม่ว่าหลังจากนี้จะขยายสาขาอย่างไรโทนของแบรนด์ก็ยังเหมือนเดิม"
 
 
จุดเริ่มต้นในการขยายแบรนด์จากข้างถนนสู่ห้างฯ แน่นอนว่า ในตอนนั้นไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักร้าน แต่เราใช้ความเป็นแม่ค้าพ่อค้าพูดคุยยิ้มแย้ม สร้างความสนิทสนมกับลูกค้า แจกขนมให้ชิมฟรี จนในที่สุดยอดขายโตขึ้นเรื่อย ๆ ถึง 200% ++ เลยทีเดียว
 
 
และเมื่อถามถึงต้นทุนในการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ คุณกรีเพชร กระซิบว่า "ต้นทุนน้อยมาก" ด้วยความที่นำของเก่าที่มีอยู่แล้ว เช่น อุปกรณ์ทำขนม ซึ่งแทบทุกชิ้นเป็นของที่มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ เพราะยึดมั่นในความคิดว่า "ยืนหยัดด้วยตัวเอง ไม่ต้องกู้เงินใคร" เพียงแค่บริหารและวางแผนการเงินให้ดี
 
 
ดังนั้นในช่วงโควิด-19 ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ ทางร้านเองก็ยอดขายตก แต่เพราะการวางแผนที่ดีจึงไม่ต้องเลิกจ้างพนักงาน และใช้เวลาช่วงที่ยังขายไม่ได้มาวางแผนว่า หลังโควิดจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งตอนนี้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย แผนที่คิดไว้จึงนำออกมาใช้ในช่วงนี้
 
 
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ทางแบรนด์สวนกระแสถึงขนาดกล้สได้เปิดสาขาใหม่ในช่วงโควิด-19 โดยเป็นสาขาที่เอ็มควอเทียร์ แถมไปได้สวยเกินความคาดหมายอีกต่างหาก! ทั้งหมดนี้ก็เพราะแผนการบริหารที่วางไว้อีกเช่นกัน เนื่องจากมีงบประมาณที่วางไว้แล้วตั้งแต่ต้นปี จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
 
 
ส่วนเมื่อถามถึงแผนในอนาคต คุณกรีเพชร พูดได้น่าสนใจว่า "เราไม่ได้ใช้เงินเป็นตัวนำ แต่เราใช้ความสุขเป็นตัวนำ ส่วนตัวตั้งใจว่ามีสัก 5 สาขา ก็พอแล้ว ไม่ใช่ว่ามีเป็นร้อยสาขาทั่วประเทศ แต่ในทุกเช้าตื่นขึ้นมาไม่มีความสุข เหนื่อยกับการทำงาน สุดท้ายทะเลาะกัน เราไม่ทำอย่างนั้น"
 

 

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ioRp-iOOLHY