หลังจากกระแสสังคมอย่าง ‘ปักชื่อนักเรียน’ จบลง ไม่นานนัก ก็ถูกส่งไม้ต่อดราม่าถึง ‘ทรงผมนักเรียน’ ซึ่งเป็นข้อพิพาทเรื้อรังมาอย่างยาวนานระหว่างครู-ศิษย์ โดยล่าสุดมีครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง แหกผมนักเรียนหญิงกลางหน้าเสาธงจนแหว่งไม่เป็นทรง ด้านแม่ลั่นตัดแล้วเรียนเก่งขึ้นไหม จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารย์ต้อนรับเปิดเทอม…
โดยทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ สรุปม้วนเดียวจบดราม่าแหกผมไม่เป็นทรง แม่ลั่นตัดแล้วเรียนเก่งขึ้นไหม? ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น… ไปดู!
- น.ส.จิน(นามสมมติ) ได้โพสต์เรื่องราวที่ลูกสาว ซึ่งก็คือ น.ส.เอ(นามสมมติ) นักเรียนหญิงชั้นม. 3 วัย 15 ปี ถูกคุณครูใช้กรรไกรแหก(ตัด)ผมจนแหว่งไม่เป็นทรงกลางหน้าเสาธง สร้างความอับอายให้แก่ตัวเด็ก
- โดยน.ส.จิน ผู้เป็นแม่เล่าว่า “ตนอยากรู้ว่าการที่ครูใช้กรรไกรตัดผมของลูกสาวตน เพื่อต้องการอะไร เมื่อครูตรวจพบความไม่เรียบร้อยของทรงผมเด็ก ควรที่จะเรียกไปเตือนเป็นรายตัว ว่าให้ไปตัดผมให้เรียบร้อย ไม่ควรที่จะใช้มีดกรรไกรไปตัดเส้นผมของเด็ก จนผมไม่เป็นทรงผม
- อยากถามครูว่า การที่ใช้กรรไกรแหกเส้นผมเด็กแบบนี้ ทำให้เด็กเก่ง เรียนหนังสือมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ และในระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ มีการระบุเอาไว้ว่าให้ครูใช้มีดกรรไกรหรือว่ามีดอะไรนำมาแหกหรือตัดเส้นผมของเด็กได้หรือไม่”
- น.ส.จิน ยังกล่าวอีกว่า “ตนได้โทรศัพท์สอบถามไปยังฝ่ายปกครองของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว แต่ว่าไม่มีใครรับสาย จึงได้โทรหา ผอ. แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ และได้นัดหมายว่า ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ให้ไปพบที่โรงเรียนเพื่อเจรจาพูดคุยกัน”
- ขณะที่ น.ส.เอ(ผู้ถูกแหกผม) เปิดเผยว่า “โรงเรียนมีการประกาศกฎว่าทรงผมนักเรียนหญิงต้องไม่ยาวเกินคาง ตนจึงได้ไปตัดผมเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. แต่ว่าเมื่อเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค. เส้นผมได้ยาวลงมาเลยคางเล็กน้อย
- วันที่ 3 ก.ค. 63 มีการเข้าแถวหน้าเสาธง ครูผู้ชายได้เดินมาตรวจเส้นผม และพบว่าเส้นผมยาวเลยคางลงมาเล็กน้อย จึงได้ใช้มีดกรรไกรตัดเส้นผมของตนระดับติ่งหู ทำให้ผมของตนไม่เป็นทรงผมอีกต่อไป และในเวลาเดียวกันนี้มีเพื่อนของตนโดนแหกเส้นผมไปด้วย 3-4 คนด้วยกัน”
- น.ส.เอ ยังกล่าวอีกว่า “ก่อนหน้าที่จะเปิดเทอม ตนได้ไปสอบถามจากครูหลายคนว่า นักเรียนหญิง ม.ต้น จะต้องตัดผมให้ยาวได้ไม่เลยคาง หรือว่าตัดผมให้ยาวได้ไม่เกินติ่งหู แต่ว่าไม่มีครูคนใดให้คำตอบที่ชัดเจนได้ ตนจึงไม่รู้ว่าจะต้องตัดเส้นผมยาวเท่าใด จนกระทั่งมาโดนครูชายตัดแหกเส้นผมของตนดังกล่าวหน้าเสาธง สร้างความรู้สึกอับอายต่อหน้าเพื่อน ๆ”
- ด้าน ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันกับแม่ของเด็กคนดังกล่าวแล้ว โดยทางแม่ของเด็กได้กล่าวขอโทษตนที่ได้โพสต์ข้อความลงไปในเฟซบุ๊ก ซึ่งเรื่องเส้นผมของเด็ก มีระเบียบที่กำหนดเอาไว้ชัดเจนว่าทรงผมจะต้องไม่ยาวเกินกว่าติ่งหู
- โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเรื่องกฏระเบียบ มีผลงานด้านวิชาการดีเด่น และผลงานด้านการจัดการเรียนการสอนดีเด่นมากมาย ตนได้ให้ความสำคัญกับผู้ปกครองนักเรียนทุกคนเป็นอย่างมาก
- หากมีปัญหาอะไรก็ให้มาพบตนได้ตลอดเวลาเพื่อ หาทางแก้ไขปัญหาหาทางออกร่วมกันให้ดีที่สุด เรื่องนี้ครูได้ทำตามระเบียบของโรงเรียน ซึ่งจะได้พูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนหญิงคนดังกล่าว เพื่อทำความเข้าใจกันในเร็ว ๆ นี้ ผอ.โรงเรียนกล่าว
- ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ ถึงการกระทำของคุณครูในครั้งนี้ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยโลกออนไลน์เสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งเห็นใจคุณครู และมองว่าเป็นกฎระเบียบ ซึ่งหากไม่สามารถรักษากฎได้จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างไร
- โดยอีกฝ่ายหนึ่งวิพากษ์วิจารย์คุณครูว่าทำเกินกว่าเหตุ ทำไมไม่มีการตักเตือนเสียก่อน และมองว่าทรงผมไม่สามารถวัดว่าเด็กจะเรียนเก่ง หรือโตไปเป็นคนดีได้หรือไม่
- ซึ่งระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน พ.ศ. 2563 ซึ่งประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 1 พ.ค. 63 ในข้อ 4 วงเล็บ 2 ระบุว่า นักเรียนหญิงจะไว้ผมสั้้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย
- โดยล่าสุด รศ. ดร. เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์ถึงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548
- ซึ่งได้กำหนดวิธีการลงโทษไว้ซึ่งจะนำมากล่าวถึงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญดังนี้
- ข้อ 4. …“การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิดโดยมีความมุ่งหมายเพื่อการอบรมสั่งสอน
- ข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี 4 สถาน ดังนี้
1. ว่ากล่าวตักเตือน
2. ทำทัณฑ์บน
3. ตัดคะแนนความประพฤติ
4. ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย.