เรื่องเศร้าช็อกวงการบันเทิง...เมื่อนักแสดงรุ่นใหญ่ "ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ซึ่งทราบโดยบังเอิญเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ เมื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดก็พบมะเร็งตับ และเข้ารับการรักษาเรื่อยมา จนอาการดีขึ้น ก่อนจะทรุดลงกะทันหันและจากไปอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว...
ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักกับ "โรคมะเร็งตับ" ซึ่งเป็นโรคที่แสดงอาการสุดแสนธรรมดา พร้อมแนะนำวิธีสังเกตอาการอันเป็นสัณญาณเตือน และวิธีป้องกันที่คุณทุกคนสามารถทำได้
โดยทีมข่าวพูดคุยกับ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เกี่ยวกับรายละเอียดของโรคดังกล่าว ซึ่งทีมข่าวจะไล่เรียงให้คุณเข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า มะเร็งตับเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของกลุ่มโรคมะเร็งในประเทศไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณปีละ 16,000 ราย โดยมีสาเหตุของโรค ดังนี้
- ดื่มสุรา ซึ่งจะทำให้เป็นโรคตับแข็ง และจะส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งตับได้
- รับประทานอาหารดิบ หรือ ปลาดิบไทย โดยเฉพาะปลาร้าดิบ ซึ่งจะมีพยาธิใบไม้ตับ โดยจะเป็นสาเหตุหลักก่อให้เกิดมะเร็งตับในท่อน้ำดี
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งจะทำให้เป็นโรคตับแข็ง และจะเป็นโรคมะเร็งตับต่อไป
- ผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดง
ระยะเริ่มแรก
- แน่นท้อง
- ท้องอืด
- ท้องเฟ้อ
- ระยะลุกลาม
- ตัวเหลือง
- ตาเหลือง
- อ่อนเพลีย
- น้ำหนักลด
- ปวดบริเวณชายโครงขวาซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ
- คลำพบก้อนบริเวณชายโครงด้านขวา
- ท้องโต หรืออาจจะขาบวม
นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวกับทีมข่าวว่า หากแน่นท้อง ท้องอืด ท้องผูก เมื่อไปพบแพทย์ ในระยะแรกแพทย์อาจจะยังไม่สงสัย ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจร่างกายในเบื้องต้นก่อน ซึ่งหากคลำที่ชายโครงด้านขวาแล้วไม่พบก้อนเนื้อ ก็อาจจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะ แล้วให้ยาไปรับประทาน
หากผ่านไป 1 สัปดาห์แล้วยังไม่หาย จะต้องขอทำอัลตร้าซาวน์ช่องท้อง เพื่อตรวจความผิดปกติ ซึ่งวิธีการวินิจฉัย คือ ทำอัลตร้าซาวน์ และซีทีสแกน
- หากพบเร็วในระยะเริ่มแรก ก็จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งออก และให้การรักษาโดยเคมีบำบัด
- หากพบในระยะลุกลาม จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ยังสามารถรักษาโดยการพยุงอาการด้วยเคมีบำบัด หรือการรักษาอื่นๆ เพื่อยืดเวลาให้สามารถอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา บางรายอาจอยู่ได้ไม่ถึง 6 เดือน แต่หากได้รับการรักษาก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ราว 1-3 ปี
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- ไม่รับประทานอาหารดิบ หรือปลาดิบ
- ไม่ดื่มสุรา
- ไม่รับประทานอาหารที่มีสารเร่งเนื้อแดง
- ออกกำลังกาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- หมั่นตรวจเช็กร่างกาย
- ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งตับ ถึงแม้มะเร็งตับจะไม่ใช่โรคกรรมพันธุ์แต่ก็มีโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดยีนส์บางส่วน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ
- ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงตามสาเหตุการเกิดโรคข้างต้นที่กล่าวมา.