- ปี 2559 สุรีพร หญิงวัย 38 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก ซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้านแห่งหนึ่ง ในราคา 35,428 บาท โดยวางเงินดาวน์ 8,500 บาท เหลือค้างชำระ 26,928 บาท
- เธอผ่อนส่งได้ 2 งวด เป็นเงิน 2,496 บาท และไม่ได้ส่งต่อ เนื่องจากธุรกิจประสบปัญหา รวมขาดส่ง 16 งวด เป็นเงิน 24,432 บาท ซึ่งต่อมา ตัวเธอเองนั้น ได้ย้ายไปอยู่พื้นที่อื่น และลืมเลือนหนี้สินจำนวนนี้ไป
- เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร้านมือถือดังกล่าว ได้ฟ้องร้องและมีหนังสือมาที่บ้านของพ่อเธอหลายรอบ แต่พ่อของเธอแก่ชราและอ่านหนังสือไม่ออก จึงไม่รู้ว่าหนังสืออะไร
- จนกระทั่งเรื่องถึงกรมบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดี ได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เป็นชื่อของเธอ ชื่อพ่อ และชื่อพี่ชาย จำนวน 4 ไร่ ออกขายทอดตลาดในราคา 5 แสนกว่าบาท เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ในการซื้อมือถือ บวกดอกเบี้ยด้วย รวม 37,000 บาท
- ส่วนเงินที่เหลือจากการขายที่ดินกว่า 4 แสนบาทนั้น จะนำคืนให้แก่เธอ ส่วนที่ดินผืนดังกล่าว ทางกรมบังคับคดี ได้ขายไปให้บุคคลที่สาม(เจ้าของที่ดินรายใหม่)แล้ว
- สุรีพร คิดว่า ที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เธอจึงอยากซื้อที่ดินคืน และเข้าไปเจรจา ขอความเมตตากับเจ้าของที่ดินรายใหม่
- เจ้าของที่ดินรายใหม่ ไม่พร้อมขายที่ดินให้ แต่ถ้าสุรีพรต้องการซื้อจริงๆ เจ้าของที่ดินรายใหม่ จะยอมขาย โดยคิดราคาที่ดินไร่ละ 4 แสนบาท จำนวน 4 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท ซึ่งเธอและครอบครัวมองว่า เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ตนเองก็ไม่มีรายได้อะไร จึงอยากให้เจ้าของที่ดินรายใหม่ขายที่ดินคืนให้ในราคาที่เป็นธรรม
- สุรีพร จึงร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมในการเจรจาไกล่เกลี่ยขอซื้อที่ดินผืนดังกล่าวคืน
- ต่อมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก “กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม” ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ใจความว่า ในการบังคับคดีดังกล่าว เจ้าพนักงานบังคับคดี ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และได้แจ้งให้จำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ทราบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การยึดทรัพย์จนถึงการขายทอดตลาด ซึ่งจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่ได้แย้ง
- กรณีดังกล่าว โจทก์ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมออกขายทอดตลาด เพื่อชำระหนี้ตามหมายบังคับคดี ซึ่งปัจจุบันผู้ซื้อได้ชำระราคาค่าซื้อครบถ้วน และรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ไปจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว
- อย่างไรก็ดี กรมบังคับคดีพร้อมที่จะช่วยเหลือในการนัดหมายผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาเจรจา เพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป.
+ อ่านเพิ่มเติม