หนุ่มพิการทางสายตา สุดงง ไปกู้เงิน 4 หมื่นบาท แต่กลับโดนนายทุนไล่ยึดที่ดินมรดกแม่กว่า 6 ไร่ อ้าง เป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ ทั้งที่ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก. งานนี้จะจบอย่างไร ติดตามในถกไม่เถียง !?
วันที่ 10 ม.ค. 2567 ลิขิต ลอยสนั่น (หนุ่ม) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา เล่าว่า ในตอนแรกนั้นตนได้ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศลาวกับแฟนสาว และลูก จากนั้นเกิดอยากกลับมาอยู่บ้านที่ไทย จ.นครราชสีมา จึงได้ปรึกษากับพี่สาวว่าอยากได้ทุนเอามาขายของหารายได้ที่บ้าน จึงได้ตัดสินใจกันว่าจะไปกู้เงินกับน้าแท้ ๆ ของตน 40,000 บาท แต่ได้เงินมาแค่ 20,000 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน จากนั้นจึงได้ทำสัญญาเงินกู้กันเมื่อปี 2563 โดยความที่ตนเป็นคนตาบอด พี่สาวเลยจับมือตนเป็นคนเซ็นเอกสารเงินกู้ ส่วนรายละเอียดในสัญญานั้น ตนมองไม่เห็น ซึ่งสุดท้ายแล้วกลายเป็นเขามีหนี้กว่า 2 ล้าน
ต่อมาตนได้ไปอยู่กับพี่สาวที่ จ.ระยอง ซึ่งในช่วงนี้ ตนก็โดนแฟนของพี่สาว ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ มาจากสาเหตุตนช่วยล้างหม้อล้างถาดร้านก๋วยเตี๋ยวเสียงดัง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำร้ายกัน ส่วนตัวพี่สาวตนก็ไม่ได้เข้ามาห้ามอะไรเลย ตนได้เข้าไปแจ้งความแล้ว แต่คดีก็ไม่คืบหน้า จึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ดินส.ป.ก. ที่ได้รับเป็นมรดกจากแม่อยู่ ทว่าหลังจากตนได้เซ็นมอบที่ดินให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 64 ตารางวา เพื่อให้ใช้เป็นแหล่งน้ำประปาของหมู่บ้าน น้าของตนกลับมาบอกว่าตนต้องออกจากที่ดินดังกล่าว เพราะมีการเซ็นมอบที่ดินนี้ให้พวกเขาไปแล้ว ทั้งที่โฉนดที่ดินยังเป็นชื่อของตนเป็นผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์อยู่เลย และยืนยันว่าที่ดินผืนนี้ ตนไม่เคยเอาไปมอบให้ใครเพราะเป็นที่ดินมรดกจากแม่ ตนไม่สบายใจที่จะถูกไล่ที่ จึงได้มาร้องเรียนต่อสื่อ
ยุ้ย เจ้าหนี้ ชี้แจงว่า หนุ่ม เป็นหลานของแม่ตน แล้วเขาเดือดร้อนเรื่องเงิน มาขอให้แม่ตนหาเงินให้ ส่วนที่ดินต้นเรื่องเป็นมรดกจริง โดยเจ้าของคนเก่าคือพี่สาวแม่ของตน เขามีลูกทั้งหมด 4 คน ซึ่งต้องแบ่งให้ทั้ง 4 คน แต่พี่สาวของหนุ่ม ทั้ง 3 คน เขามีเงื่อนไขที่ไม่สามารถรับกรรมสิทธิ์ที่ดินนี้ได้ เลยต้องให้หนุ่มถือครองไปก่อน ขณะเดียวกัน ที่ดินผืนนี้ตนได้เช่าทำประโยชน์มานานแล้ว โดยหนุ่มนั้นขายที่ให้กับพี่สาว เพื่อเป็นหลักประกันเอาเงินมาใช้ แต่ชื่อที่ดินก็ยังเป็นของหนุ่มอยู่
ขณะเดียวกัน เรื่องเงิน 20,000 บาทนั้น จริง ๆ แล้ว พวกพี่ ๆ เขาช่วยเขาเยอะกว่านั้น ส่วนของตนนั้นก็ได้ขายรถยนต์ให้เขาไป แลกกับที่ดินแปลงนี้ ทั้งนี้ตนรู้อยู่แล้ว ว่าที่ดินนี้มันเป็นส.ป.ก. ไม่สามารถขายได้ ตนจึงได้ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้และยังเคยเอาเงินไปประกันตัวเขาจากโรงพัก 50,000 บาทด้วย นอกจากนี้พี่ ๆ เขาทวงเงินหนุ่มกลับบอกว่าจะไม่แบ่งที่ให้ใครอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากได้จากหนุ่ม คือ เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนก็อยากได้เงินคืน และอยากได้รถคืนด้วย
ไก่ พี่สาวของนายหนุ่ม กล่าวว่า ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนจับมือน้องชายเซ็นสัญญากู้เงินแน่นอน สามารถเอาสัญญาฉบับดังกล่าว ไปตรวจสอบได้เลย ส่วนเรื่องรายละเอียดของเงินนั้น มันผ่านมาหลายปีแล้ว ตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่หนุ่มอ้างว่าแฟนตน ทำร้ายเขา จริง ๆ แล้ว มันเป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาททั้งคู่ ตนก็ไม่รู้สาเหตุ เพราะ แฟนของหนุ่มเป็นคนไปตามตน พอตนมาเขาทั้งคู่ก็แยกกันแล้ว ทั้งนี้ ตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาออกมาร้องสื่อ เขาต้องการอะไร
ด้าน หนุ่ม ได้ตอบกลับว่า เรื่องที่พี่สาวช่วยเหลือตนมานั้น ไม่จริง เพราะตนยังเดือดร้อนต้องไปเป็นคนเร่ร่อนนอนขอข้าวเขากินอยู่ที่พัทยาก็เคยมาแล้ว ส่วนเรื่องรถยนต์ ตนก็เอาไปคืนเขาแล้ว เคยยืมมาใช้วิ่งรับส่งแพะแค่ 1-2 เดือน แค่นั้น ซึ่งตนเอารถไปเข้าไฟแนนซ์จริง และตนส่งต่อไม่ไหวจึงเอารถไปจอดคืนเขาแล้ว และตอนนี้ตนเข้าใจแล้วว่าหนี้ส่วนรถยนต์มันเป็นภาระของตน ตนจะชดใช้ให้เขา
ฟาด ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ให้ความเห็นว่า ตามปกติแล้ว ที่ดินส.ป.ก. ไม่สามารถทำการซื้อขายได้ ถ้าเจ้าของที่จะสละสิทธิ์การครอบครอง ต้องสละสิทธิ์ให้ทางหน่วยงานส.ป.ก. ก่อนจะไปสู่คนอื่นได้ แต่สามารถตกทอดเป็นมรดกได้ ส่วนการทำสัญญาเงินกู้ การที่คุณหนุ่มเป็นผู้พิการทางสายตา ทำให้มองไม่เห็นรายละเอียดสัญญา ดังนั้นคนที่เอาสัญญามาให้เซ็นนั้น ต้องเป็นคนรับผิดชอบ อาทิ คุณหนุ่มทราบว่าตัวเองกู้เงิน 20,000 บาท แต่ในสัญญาเงินกู้กลับระบุ 100,000 บาท
สำหรับเคสนี้ คุณหนุ่มไม่ต้องกังวลเรื่องโดนไล่ที่ เพราะยังไงกรรมสิทธิ์ของที่ดินผืนนี้ ก็ยังเป็นชื่อเขาอยู่ดี ทว่า ถ้าเอกสารที่ดิน ส.ป.ก. เจ้าของนำไปเป็นหลักประกันกู้ยืมเงิน จะมีโทษทางอาญา ถึงขั้นจำคุก และปรับด้วย
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35