ต้องการบริจาค: พิมพ์ COVID แล้วส่ง SMS มาที่ 4712225 เพื่อบริจาค 100 บาท
ในขณะที่การล้างมือด้วยสบู่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทุกวันนี้ยังมีผู้คนอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ข้อมูลล่าสุดจากยูนิเซฟและองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีประชากรโลกเพียง 3 ใน 5 คนเท่านั้นที่เข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการล้างมือ เช่น น้ำ สบู่ หรือ พื้นที่ ๆ สามารถล้างมือได้
การประมาณการณ์ล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า
ร้อยละ 40 ของประชากรโลก หรือราว 3 พันล้านคน ไม่มีน้ำ สบู่และที่ล้างมือที่บ้าน โดยในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด อัตรานี้สูงถึงเกือบละร้อยละ 75
ร้อยละ 47 ของโรงเรียนทั่วโลกไม่มีน้ำและสบู่ให้เด็กได้ล้างมือ ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยเรียนกว่า 900 ล้านคน ในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โรงเรียนเกินครึ่งไม่มีพื้นที่ให้นักเรียนล้างมือได้เลย
1 ใน 6 ของสถานพยาบาลทั่วโลกไม่มีบริการด้านสุขอนามัย ซึ่งรวมถึงการไม่มีน้ำและสบู่สำหรับผู้ป่วยและผู้มารับบริการได้ล้างมือ
ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ยูนิเซฟได้จัดส่งสิ่งช่วยเหลือจำเป็นหลายสิบล้านชิ้นไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น เครื่องใช้เพื่อสุขอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดป้องกันเชื้อโรค เพื่อปกป้องเด็ก ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ยูนิเซฟได้ร่วมกับพันธมิตรแจกจ่ายสบู่และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือจำนวน 150,000 ชิ้นให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความเปราะบาง ซึ่งรวมถึง เด็กในชุมชนแออัด เด็กที่ใช้ชีวิตบนท้องถนน เด็กที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์/สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ/และสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายใต้กรมกิจการเด็กและเยาวชน ศูนย์การเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ
ร่วมบริจาคในโครงการ “ช่วยจากบ้าน ร่วมต้านโควิด”
ผ่านระบบ SMS: พิมพ์ COVID และส่ง SMS มาที่ 4712225 (บริจาค 100 บาทต่อข้อความ)
ออนไลน์: https://www.unicef.or.th/th/soap
ข้อมูลเพิ่มเติม
ในประเทศไทย องค์การยูนิเซฟได้ร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานสหประชาชาติอื่น ๆ ในการต่อสู้กับโควิด-19 ในด้านต่าง ๆ เช่น
ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จัดส่งสบู่และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกว่า 150,000 ชิ้นให้แก่เด็กและเยาวชนที่เปราะบางทั่วประเทศ
ส่งมอบน้ำยาตรวจโควิด-19 มูลค่า 5 ล้านบาทแก่สถาบันบำราศนราดูร
เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองและการดูแลจิตใจตนเองแก่เด็กและครอบครัวผ่านสื่อต่าง ๆ
สนับสนุนและเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพและสุขอนามัยแก่ชุมชนแรงงานข้ามชาติใน 22 จังหวัด
สำรวจและวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงกลุ่มที่เปราะบางที่สุด
จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองทางสังคมแก่กลุ่มประชากรที่เปราะบางที่สุด
จัดซื้อเครื่องมือวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรดแก่โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับโรงเรียนเพื่อป้องกันโควิด-19 เพื่อเตรียมการเปิดภาคเรียน
สำหรับทั่วโลก ยูนิเซฟสามารถระดมเงินบริจาคได้แล้ว 215 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยูนิเซฟได้เข้าถึงเด็กและครอบครัว ดังนี้
ประชาชนกว่า 1.67 พันล้านคนได้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ทั้งการล้างมืออย่างถูกวิธี และการปฏิบัติขณะไอ จาม
ยูนิเซฟได้จัดส่งสิ่งช่วยเหลือจำเป็นหลายล้านชิ้นเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดไปแล้วในทั้งหมด 52 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ถุงมือ 6.6 ล้านชิ้น หน้ากากอนามัย 1.3 ล้านชิ้น หน้ากากชนิด N95 428,000 ชิ้น ชุดกาวน์ 291,000 ชิ้น แว่นตาป้องกัน 13,000 ชิ้น หน้ากากเฟซชีลด์ 63,000 ชิ้น เครื่องช่วยหายใจ 200 เครื่อง และชุดน้ำยาตรวจโรคโควิด-19 34,500 ชุด
เด็ก ๆ ราว 80 ล้านคน ได้รับการสนับสนุนเพื่อการเรียนทางไกลหรือเรียนจากที่บ้าน
เด็กและสตรีกว่า 10.9 ล้านคน ได้รับบริการทางสุขภาพในสถานพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากยูนิเซฟ
เด็ก ครอบครัว และผู้ดูแลกว่า 830,000 คน ได้รับการดูแลจิตใจในชุมชน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ณัฐฐา กีนะพันธ์ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย 086 616 7555 หรือ nkeenapan@unicef.org
วรวุฒิ ชูมณี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย 093 442 8289 หรือ wchumanee@unicef.org
เกี่ยวกับการบริจาค โปรดติดต่อ คุณนภาวดี อาณานุการ 081 425 6595, nananukan@unicef.org