สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในประเทศไทย หลังจากรัฐบาลสั่งอัดยาแรงปิดเมืองท้าชน ซึ่งผลปรากฎเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าจำนวนยอดผู้ติดเชื้อ และยอดผู้เสียชีวิตลดลงอย่างน่าพอใจ นำมาสู่มาตรการผ่อนปรนคืนชีวิตปกติให้ประชาชน ขณะเดียวกันก็เกิดความกังวลว่า เชื้อมรณะจะกลับมาระบาดอีกครั้ง...
โดยล่าสุด ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 2,989 ราย ตรวจพบเพิ่ม 1 ราย รักษาหายแล้ว 2,761 ราย และเสียชีวิต 55 ราย (ข้อมูลวันที่ 6 พ.ค. 63)
ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง(ระดับ 10) นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ถึงสถานการณ์โควิด-19 หลังรัฐบาลออกมาตรการผ่อนปรน คนไทยจะต้องประสบพบเจออะไรหลังจากนี้?
สถานการณ์โควิด-19 หลังมาตรการผ่อนปรน
"เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้น การตัดสินใจแต่ละอย่างอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่เราจะต้องเรียนรู้ว่า เราจะต้องป้องกันผลที่ตามมาอย่างไร”
ไทยพร้อมผ่อนปรนแล้วจริงหรือ?
นพ.รุ่งเรือง กล่าวกับทีมข่าวว่า ประเทศไทยเดินมาถึงจุดที่ต้องผ่อนปรน ซึ่ง ศบค. ก็ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องรอบคอบ โดยมี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. การดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดให้เขามีกิน มีเครื่องนุ่งห่ม และมีแพทย์พยาบาลคอยรักษา แต่ต้องยอมรับว่าคงจะมีความสุขเหมือนเดิมไม่ได้
2. เรามีมาตรการเชิงบุกที่เราทำมากกว่าเชิงรุก เช่น การบุกเข้าค้นหาผู้ต้องสงสัย การแยกตัว และการเข้าไปส่งเสริมให้ความรู้
3. สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ซึ่งเดิมประชาชนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโควิด-19 แต่ตอนนี้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น และครั้งนี้ต้องบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าพี่น้องประชาชนได้ออกมาร่วมมือกัน เราไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก
4. เรามีมาตรการหมัดน็อก เช่น ผู้ป่วยโควิด-19 ที่แม้ไม่มีอาการ แต่หากตรวจพบเชื้อจะสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ทันที รวมถึงมาตรการกักตัวผู้เข้าประเทศที่ตรวจพบเชื้อ
5. สุดท้าย คือ เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำได้ดีมาก โดยตอนนี้อยู่ภายใต้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
คาดว่าสถานการณ์โควิด-19 จะจบลงเมื่อไหร่
“ยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งเหมือนกับการวิ่งมาราธอนที่มีระยะทางยาวนาน แต่หากว่าเราค่อยๆ ปรับตัว เราก็จะสามารถอยู่ร่วมกับเชื้อร้ายนี้ได้ และในวันหนึ่งธรรมชาติจะรักษาธรรมชาติเอง” นพ.รุ่งเรือง กล่าว