อีกหนึ่งดราม่าสุดร้อนแรงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ‘ครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญเอนก’ นักร้อง-นักแต่งเพลงหน้าหล่อลุคผู้บ่าวเกาหลี ซึ่งแต่ละเพลงก็กวาดยอดวิวมหาศาล ที่สำคัญยังควบตำแหน่งพ่อพิมพ์วงการกากี ทำเอาผู้สาวต่างเทใจให้อย่างท่วมท้น
- เรื่องราวสุดอื้อฉาวของครูเต้ยถูกสะกิดให้ปะทุขึ้น ภายหลังจากที่เพจดังออกมาแฉว่า ครูเต้ย สร้างโลกสองใบ คบซ้อนสองคน ซึ่งก็คือ น.(แฟนเก่า) และ ข.(แฟนใหม่)
- ร้อนถึงนักร้องคนดังต้องออกมาร่ายยาวชี้แจง ใจความว่า ตนคบกับ น. จริงตั้งแต่ยังไม่ดัง น. เป็นผู้หญิงที่ดีมาก แต่ตัวเองไม่ดีเอง เลยทำให้ต้องคบๆ เลิกๆ เพราะทะเลาะกัน และมีปัญหาเรื่องผู้หญิง
- จนเดือนกันยายน เห็น ข. เลยทักไป แต่ ข. เหมือนไม่อยากคุยกับตน เดือน ตุลาคมจึงกลับไปหา น. กลับมาคบกันไม่นานก็เลิกกันอีก แล้วก็กลับไปคุยกับ ข. อีกครั้งและคบกัน
- กระแสเหมือนจะจางหาย แต่โลกโซเชียลกลับมาปะทุเดือดอีกครั้ง เมื่อครูเต้ยโพสต์ภาพจากการ์ตูนอมตะอย่าง วันพีซ พร้อมเปรียบความสัมพันธ์ตัวละครระหว่าง ลูฟี่(ครูเต้ย) นามิ(ข. แฟนใหม่) และบิ๊กมัม(น. แฟนเก่า)
- โดยใจความในโพสต์นั้น ประมาณว่า สงสารนามิ(ข. แฟนใหม่) ที่โดนมองเป็นผู้ร้ายมาตลอด เพียงเพราะเล่าความลับให้เพื่อนฟัง และโดนหักหลัง เมื่อความลับถูกแฉคนก็เข้ามาขุดความลับ จนนามิถูกมองเป็นคนไม่ดี
- ส่วน บิ๊กมัม(น. แฟนเก่า) กลับถูกมองว่าเป็นฮีโร่ ทั้งๆ ที่อดีตของ บิ๊กมัม ก็ไม่ธรรมดา ผมเคยสงสัยว่า ทำไมลูฟี่ถึงพูดเหมือนปกป้องบิ๊กมัม ให้บิ๊กมัมเป็นฮีโร่ แต่แท้จริงแล้ว ลูฟี่(ครูเต้ย) อยากจบเรื่องนี้
- ตอนนี้บิ๊กมัมถูกมองเป็นฮีโร่ และลูฟี่กับนามิถูกมองไม่ดี เพราะสังคมเข้าใจว่า ลูฟี่ไล่บิ๊กมัมลงจากเรือ และรับนามิเข้ากลุ่ม แต่ความจริงที่ไล่ลงจากเรือนั้นเพราะบิ๊กมัมทำไม่ดีไว้เหมือนกัน
- จากนั้น ชาวโซเชียลก็วิจารณ์ในทำนองว่า ทำไมต้องโยนความผิดทุกอย่างให้กับแฟนเก่า ทั้งที่เรื่องทั้งหมดเกิดจากความเจ้าชู้ของตัวเอง
- ไม่นานครูเต้ยก็ลบภาพนั้นออกไป ก่อนจะโพสต์ข้อความว่า “โลกนี้ไม่ยุติธรรม ฟังความข้างเดียว พอพูดความจริงก็บอกไม่ใช่ลูกผู้ชาย เมื่อไม่ยอมรับฟังจะถามหาความจริงทำไม”
- จากนั้น มีสาวนิรนามเข้ามาคอมเมนต์ คาดว่าเป็นพี่สาวของ น. ตั้งคำถามว่า “ถ้าเต้ยคิดว่าสิ่งที่เต้ยทำกับ น. ตอนนี้ เวลานี้ที่เต้ยไลน์มาขู่น้อง เต้ยคิดว่าเต้ยเป็นลูกผู้ชายจริงๆ หรอ?”
ขอบคุณภาพ : เจ๊มอย 108
- ขณะที่ น. ก็ได้โพสต์สตอรี่เฟซบุ๊กว่า “ให้ตายไหมถึงจะพอใจ” พร้อมกับโพสต์เฟซบุ๊กทำนองว่า “อย่าจุดไฟเผาคนอื่น เพียงเพื่อให้ตัวเองอุ่น”
- เรื่องราวเข้มข้นขึ้น เมื่อครูเต้ยเข้ามาคอมเมนต์โต้อย่างดุเดือดว่า “งัดความจริงมาเลยครับ เงียบมานานละ” และ “ทุกคนจะได้รู้ความจริงซะที เป็นลูกผู้ชายยอมเงียบ แต่ถ้าเงียบแล้วทุกอย่างแย่ คนเข้าใจผิด คงต้องพูด ต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจ”
- ไม่นานนัก ครูเต้ย ก็ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฉอดีตแฟน สรุปความได้ว่า น.แฟนเก่า เคยมีครอบครัวและมีลูกติด เมื่อคาดคั้นก็รู้ว่าเป็นความจริง ซึ่งตนไม่ได้รังเกียจเด็ก คิดว่าวันหนึ่งจะมาเป็นลูกของตน แต่ยอมรับว่าเสียความรู้สึกที่ น. ปิดบัง
- น. ขอเงินเดือนเพิ่มเป็น 6 หมื่น ซึ่งตอนนั้นค่าตัวผมอยู่ที่ 6 หมื่น ซึ่งเพิ่งจะกลับมาคบกัน อ้างว่าตนทำงานวันเดียวก็ได้เงินเดือนแฟนแล้ว และบอกเรื่องไม่ดีต่างๆ ที่อดีตแฟนทำไว้
- ต่อมาเรื่องแดงว่า ตนคบกับ ข. แต่ไม่มีใครรู้ว่าตนเลิกกับ น. แล้ว ข่าวจึงออกมาว่า ตนคบซ้อน ซึ่ง น. ก็ไม่มีการแก้ข่าวให้ กลับโพสต์ทำนองว่าใครก่อเวรกรรมไว้ต้องได้รับผลกรรม ยิ่งทำให้คนเชื่อว่าตนคบซ้อนจริง
- ก่อนครูเต้ยจะปล่อยโฮร่ำไห้อย่างไม่อาย พร้อมเล่าว่า “ผมรักน้องเขามาก(ข.) ผมเสียใจที่เขาคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่โกรธที่เขารู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหว เรื่องทั้งหมดไม่เคยพูดให้ใครฟัง”
- หลังจากนั้นโซเชียลเสียงแตกเป็นสองฝั่งคือ ฝั่งสนับสนุน สงสารและให้กำลังใจ ฝั่งตราหน้าว่าไม่ใช่ลูกผู้ชายออกมาแฉผู้หญิง
- ยังไม่จบ เรื่องมาถึงจุดพีคเมื่อ โลกไซเบอร์เปลี่ยนประเด็นพุ่งเป้าไปที่อาชีพ "ครู" ที่เจ้าตัวทำควบอยู่คู่กับ "นักร้อง" ในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ลุกลามสะเทือนไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ เพราะสังคมตั้งคำถามว่า คิวงานแน่นขนาดนี้ เอาเวลาไหนไปสอนหนังสือ
- บ้างก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องอื้อฉาว ซึ่งผิดวินัยข้าราชการครูอย่างร้ายแรง แต่กลับไม่ถูกลงโทษแต่อย่างใด
- โดยชาวเน็ตบางรายได้แสดงความเห็นว่า “เมืองไทยประกันชีวิตต้องกราบครูเต้ย กิจกรรมเยอะสุด ร้องเพลง โชว์ตัว ถ่ายแบบ อัดเพลง แต่งเพลง แสดงหนัง ถ่าย MV มีแฟน โลกสองใบ สอนหนังสือ ฯ นี่มันโครตคนต้องคารวะ เก่งขนาดนี้ครูทั้งประเทศต้องมาดูงานค่ะ”
- ทั้งชาวเน็ตยังออกมาแฉข่าวลือที่ว่าครูเต้ยจ้างคนอื่นมาสอนหนังสือแทน ลาบ่อย มาสาย ประชุมไม่เข้า เวรไม่มา งานไม่มี แต่จะมีบทบาทตอนผู้ใหญ่มาเยี่ยมโรงเรียน ซึ่งผิดวินัยร้ายแรง และผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบก็รู้เห็นเป็นใจ
- เมื่อมีคนถามไปยังเพจเฟซบุ๊กโรงเรียนที่ครูเต้ยสอนอยู่ กลับได้คำตอบว่า ครูเต้ยลาไม่บ่อยและไม่เคยลาเกินกำหนด หากมีหนังสือขอความอนุเคราะห์ขอครูเต้ยไปร่วมกิจกรรมจะไม่ถือเป็นการลา
- ทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ไม่รอช้ายกหูโทรสัมภาษณ์ นายวสันต์ สัตยคุณ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 5 ความว่า หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ครูเต้ยไม่ได้สอน แต่จ้างผู้อื่นมาสอนแทน การกระทำนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ได้ทำหน้าที่ครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพ จะถือว่ามีความผิดทางวินัย
- หากตรวจสอบพบเป็นความผิดร้ายแรง มีบทลงโทษคือการปลดออก(ยังมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนว่าผู้นั้นลาออก) หรือไล่ออก(ไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ หรือสิทธิ์อื่นใด)”