จากกรณี มีเพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์แฉขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น และ ขายในราคาแพงเกินกว่าปกติ ทำให้มีการแชร์ และขุดข้อมูลวิพากษ์วิจารณ์กันในเพจเป็นจำนวนมาก กระทั่งตำรวจได้เชิญตัว นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือบอย มาสอบถาม ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้ขายหรือ กักตุนหน้ากากอนามัย เพราะไม่มีตามที่โพสต์ไว้แต่อย่างใด
จนเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 มี.ค.) ทางเพจได้โพสต์ประกาศปิดตัวไปหมาดๆ
แต่ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.) เพจแหม่มโพธิ์ดำได้หวนเปิดเพจอีกครั้งหลังปิดไปเพียงชั่วข้ามคืนพร้อมทั้งระบุข้อความว่า ขณะนี้ถูกใส่ร้ายอย่างหนัก ระบุใจความว่า
"ตอนที่เปิดมาเปิดโปงเรื่องหน้ากากที่หายไป ก็ลาตายแล้ว ชีวิตเดียว ถ้าต้องแลกกับโรงพยาบาลมีหน้ากากใช้ก็คุ้มอะ เลิกใส่ร้ายป้ายสี แล้วหาหลักฐานมาดิ๊ ว่าเพจแบบไปรับเงินฝั่งตรงข้ามมาตอนไหน ไม่หยุดไปต่อนะบอกก่อน
แทนที่จะไล่บี้คนผิด แต่มาตีกับคนแฉ คนฉลาดเขาจะชี้แจง อธิบายให้ชัดเจน ไม่ใช่ใส่ร้ายคนเปิดโปง อย่าให้สอนมวยดิ อย่างเรื่องพรรคภราดรภาพมีเอี่ยว ก็เปิดเอง เขาจะผิดจริงไหม เป็นหน้าที่สื่อไปตามต่อ ส่งหลักฐานให้หมดแล้ว
ก่อนเลือกตั้ง ลุงตู่ยังชมกูเพจน้ำดี ช่วยเหลือสังคม พอวันนี้มาแหกโครงการแจกเงิน ไล่บี้คนอมหน้ากาก ช่วยส่งหน้ากากให้รพ.ที่เดือดร้อน กลายเป็นเพจต่อต้านรัฐบาลเฉย หรือคำว่าเพจน้ำดี คือเพจที่ต้องอวยรัฐบาลตลอดเวลาวะ นี่งงไปหมดแล้ว
ที่สำคัญนะ ที่ทำอยู่เพื่อช่วยโรงพยาบาลตอนนี้ มันชังชาติตรงไหน ช่วยตอบที??? #ร้อยชีวิตก็ไม่พอให้Save"
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ