โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ออกแถลงการณ์ว่า ชี้แจงกรณีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID -19 ที่โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ป่วยชายไทย มาด้วยอาการ ไข้ ไอ ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ
เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาลจากนั้นเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 แพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วยและสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้งผู้ป่วยปฏิเสธ ช่วงสายผู้ป่วยได้เปิดเผยประวัติว่าได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง
เมื่อผู้ป่วยแจ้งประวัติ โรงพยาบาลฯ ได้ติดต่อสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ซึ่งได้ระบุว่าผู้ป่วยรายนี้เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ( Patient Under Investigation ) และย้ายผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในห้องความดันลบ ( Negative Pressure Room ) และส่งตรวจ PCR for COVID-19 ทันที ช่วงค่ำของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผลตรวจ PRเบื้องตัน พบเชื้อ COVD-19 ( Detected ) โรงพยาบาล บี.แคร์ ๆได้แจ้ง สปคม. ทันที ปัจจุบันผู้ปวยได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการที่ผู้ป่วยปกปิดและปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 30 คน ซึ่งโรงพยาบาลฯ ร่วมกับ สปคม. ได้ดำเนินการดังนี้
1. บุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วยทุกคน ได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และ ตรวจเลือดเพื่อหา Antibody ของ Virนs เบื้องต้น ผลตรวจ PCR for COVD -19 ของบุคลากรทุกคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นลบ คือไม่พบเชื้อไวรัส แต่ยังต้องตรวจซ้ำในช่วงเวลา 7-14 วัน 2. ให้บุคลากรดังกล่าวหยุดงาน ( Self quarantine ) สังเกตอาการที่บ้าน และปฏิบัติตามแนวทางของกรมควบคุมโรค 3. ทำการ Deep Clean ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และงดรับผู้ป่วยในหอผู้ป่วย เบื้องต้น ผลการตรวจ PCR for COVID-19 ของบุคลากรโรงพยาบาลทั้ง 30 ศน ตรวจไม่พบเชื้อไวรัส
ขอความร่วมมือผู้รับบริการทุกท่าน แจ้งประวัติที่เป็นความจริงเพื่อเข้าสู่กระบวนการการคัดกรอง การวินิจฉัย การแยกโรคตามมาตรฐาน ดังนี้
1. หากท่านมีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ จาม อ่อนเพลีย ให้แจ้งที่จุดคัดกรองของโรงพยาบาลฯ ซึ่งได้จัดให้มีทุกประตูเข้าออกของโรงพยาบาล
2. โรงพยาบาลฯ จะนำท่านไปยังห้องตรวจแยกโรค แรงดันลบ ( Negative Pressure ) ทันที่ และติดต่อประสาน สปคม. เพื่อให้ สปคม. พิจารณาว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ( Patient Under Investigation )หรือไม่
3. หากเข้าเกณฑ์ ท่านจะได้รับการตรวจ PCR for COVID -19 และพักรักษาตัวในห้องความดันลบ(Negative Pressure) ของโรงพยาบาลฯ เพื่อรอผลตรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง
4. หากผลตรวจพบเชื้อ ทาง สปคม. จะดำเนินการรับตัวท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภาครัฐต่อไป การปกปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเอง
ทั้งนี้ โรงพยาบาล บี.แคร์ เมติคอลเซ็นเตอร์ ขอยืนยันว่า โรงพยาบาลมีการเฝ้าระวัง และคัดกรองโรคที่เป็นมาตรฐาน และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก หรือแชร์ข่าวที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสถานการณ์ที่แน่นอนจากโรงพยาบาลฯ โดยหากมีความเคลื่อนไหวหรือมีสถานการณ์ใดๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง โรงพยาบาลฯ จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ จึงขอแจ้งมา ณ โอกาสนี้
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์
ขณะที่ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ออกแถลงความคืบหน้าจากเหตุการณ์ที่มีการพบว่า บิดาของพนักงานสาขาดอนเมือง ธนาคารธนชาตมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
เบื้องต้นพบว่า บิดาของพนักงานดังกล่าวเพิ่งกลับจากประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต่อมาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์มีอาการป่วยจึงได้ไปพบแพทย์ และพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
จากเหตุการณ์ดังกล่าวธนาคารธนชาตได้มีการจัดประชุมเพื่อปฏิบัติตามแผน BCP ที่ได้มีการกำหนดไว้ และในเบื้องต้นได้ให้สาขาดังกล่าวปิดทำการ 3 วันนับตั้งแต่วันนี้ และจะมีการ Big Cleaning และอบโอโซน เพื่อทำให้พื้นที่สาขาปลอดเชื้อ รวมถึงให้พนักงานทุกรายเข้ารับการตรวจจากแพทย์ และเฝ้าดูอาการต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่า ชายผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น กับกรุ๊ปทัวร์ ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามผู้ที่โดยสารเที่ยวบินดังกล่าว และผู้ร่วมกรุ๊ปทัวร์มาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน