ศาลฯฟันคุก 'สมเกียรติ-เจ๊ปอง' พร้อมแกนนำพันธมิตรฐานบุก 'เอ็นบีที' ไม่รอลงอาญา
logo TERO HOT SCOOP

ศาลฯฟันคุก 'สมเกียรติ-เจ๊ปอง' พร้อมแกนนำพันธมิตรฐานบุก 'เอ็นบีที' ไม่รอลงอาญา

TERO HOT SCOOP : วันนี้ ( 12 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสร เจ๊ปอง,อัญชะลี,สมเกียรติ,พันธมิตร,แกรนำพันธมิตร,เอ็นบีที,NBT,อัญชะลีไพรีรัก,สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์,นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที,นายภูวดล ทรงประเสริฐ,นายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล,ศาลอาญา,จำคุก

5,863 ครั้ง
|
12 ก.พ. 2563
วันนี้ ( 12 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล แกนนำ 'พธม.' จำเลยในคดีบุกรุก สำนักงาน NBT ปี 2551 ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่ กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ 'พธม.' บุกสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT หมายเลขดำอ.1033/61 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ร่วมกันเป็นจำเลย ที่ 1-5 ในความผิดฐาน 'ร่วมกันบุกรุกมั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ ซ่องโจร ฯ' 
 
 
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22 -25 ส.ค.51 จำเลยกับพวก ร่วมกันประชุมวางแผน ระดมคนจำนวนมากมีอาวุธปืนและมีด จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วทำลายทุบประตูทางเข้า-ออก ด้านหน้าติดกับถนนวิภาวดี-รังสิต จนพังลงมา ก่อนบุกรุกเข้า สำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีฯ กรุงเทพฯ เพื่อบังคับให้หยุดการนำเสนอข่าวและเชื่อมต่อสัญญาน สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ เคเบิ้ลทีวีแทน โดยได้ทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้าตู้ระบบควบคุมไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดฯ จนเสียหายใช้การไม่ได้ รวมมูลความค่าเสียหาย 612,198 บาท ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา 210,215,364,365,358 และ390 ที่ห้องพิจารณาคดี 811
 
 
โดย น.ส.อัญชะลี ได้เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชน และให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นฟังการพิจารณาคดีว่า วันนี้มาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีบุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบคำพิพากษาของศาล แต่ก็ได้เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวมาด้วย สำหรับคดีนี้กลุ่มของตน 1-5 คนที่จะมาฟังคำพิพากษาในวันนี้เป็นคดีที่อัยการเรียกฟ้องเพิ่มภายหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ส่วนรายละเอียดในคดีให้ทีมทนายความดำเนินการทั้งหมด ทั้งเอกสาร พยานในการต่อสู้คดี รวมถึงหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว โดยตนเองไม่ทราบถึงรายละเอียด ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร ก็ได้ติดต่อให้กำลังใจมาตลอด ตนกล่าวกับตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเกิด เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงได้
 
 
เมื่อถึงเวลาศาลพิเคราะห์ว่าคดีนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ กับคดีที่มีการยื่นฟ้องแกนนำกลุ่มพันธมิตร เนื่องจากเป็นความผิดคนละข้อหา โดยความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุกทำให้เสียทรัพย์และข่มขืนใจผู้อื่น ศาลพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนักรบศรีวิชัย 85 คน บุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ว่ามีการเข้าไปในสถานีดังกล่าวจริง ทั้งจำเลยทั้ง 5 คนให้การในฐานะพยาน ประกอบกับมีพยานบุคคล พยานหลักฐาน ยืนยันว่าเห็นจำเลยทั้ง 5 คนกระทำความผิดประกอบกับการนำสืบของตำรวจที่สืบสวนมาตั้งแต่การชักชวนปราศัยบนเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เชื่อว่าเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องกันที่จำเลยอ้างว่าเป็นการพากลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปที่เวทีปราศรัยฟังไม่ขึ้น ส่วนความผิดฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์นำสืบไม่ชัดเจนว่าจำเลยทั้ง 5 คน มีการสมคบคิดอย่างไร ศาลจึงพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT สั่งจำคุกนายสมเกียรติ เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คน จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมทั้งยกฟ้องข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรกับจำเลยทั้งหมด ขณะที่จำเลยทั้ง 5 คนอยู่ระหว่างยื่นเรื่องประกันตัวเพื่อเตรียมอุธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง