วิกฤตโคโรนา ทำหน้ากากอนามัยขาดตลาด-แพงหูฉี่
วิกฤตไวรัสโคโรนา 2019 ที่จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ก่อนจะมีการแพร่เชื้อไวรัสออกไปในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย จนองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดวิตก แห่ซื้อหน้ากากอนามัยกันเป็นจำนวนมาก จนเกิดการขาดแคลนสินค้าทั้งในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด พบมีการกักตุน โก่งราคาหลายเท่าตัว บางรายสั่งซื้อในโลกออนไลน์ แต่กลับได้สินค้าไม่มีคุณภาพ สกปรก ไม่สามารถนำมาใช้งานได้
ชี้เป้าหน้ากากอนามัยราคาถูก
1.องค์การเภสัชกรรม จำกัดปริมาณการซื้อหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค ชนิดใยสังเคราะห์สีเขียวขาวได้จัดแบ่งบรรจุขายแพคละ 10 ชิ้น ราคา 10 บาท จำกัดคนละ 1 แพค
ส่วนเจลล้างมือ ชนิดหลอดขนาด 50 กรัม หลอดละ 24 บาท จำกัดคนละไม่เกิน 2 หลอด
โดยร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขา จะเปิดให้ประชาชนรับบัตรคิวได้ 2 รอบ คือ เวลา 08.00 น. และ 12.00 น. แต่ละรอบมีการจำกัดจำนวนหรือโควต้าให้กับประชาชนแตกต่างกัน เบื้องต้นแต่ละรอบไม่ต่ำกว่า 200 คิว
2.ทำเนียบรัฐบาล เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่วันนี้ (7 ก.พ.) เวลา 10.00 น. โดยจะจัดขายต่อเนื่อง 15 วันในช่วงแรก บริเวณหน้าประตู 6 ทำเนียบรัฐบาล (เวิ้งตรงน้ำพุ) เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก และที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก
ทั้ง 2 จุดจะจำหน่ายหน้ากากอนามัย จุดละ 10,000 ชิ้น ในราคาแพ็กละ 25 บาท จำนวนบรรจุ 10 ชิ้น หรือเฉลี่ยชิ้นละ 2.50 บาท โดยไม่มีการจำกัดจำนวนการซื้อต่อ 1 คน 3.กระทรวงพาณิชย์ เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาถูก ชิ้นละ 2-5 บาท จำนวน 2 ล้านชิ้น จำกัดคนละ 10 ชิ้นเท่านั้น บริเวณลานเอนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 8 ก.พ.2563 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป และจะกระจายไปทุกอำเภอทั่วประเทศ ผ่านร้านธงฟ้าลดค่าครองชีพ ในราคาชิ้นละ 2.50 – 5 บาท ตามคุณภาพ
หน่วยงานแจกฟรีหน้ากากอนามัย
1.กองทัพบก นำหน้ากากอนามัย จำนวน 45,000 ชิ้น กระจายแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ทุกวัน ระหว่างวันที่ 6-7-8 กุมภาพันธ์ 2563 ในพื้นที่สาธารณะที่ประชาชน
2.กทม.แจกหน้ากากอนามัยให้กับพี่น้องประชาชน วันที่ 5-9 ก.พ.นี้ รวมถึงนักท่องเที่ยว บริเวณสถานีรถไฟฟ้า และตลาดนัดจตุจักร หรือจะไปขอรับที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของกทม.ทั้ง 68 แห่งของ กทม.
โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเพียงพอ
กระทรวงอุตสาหกรรม เผยผู้ประกอบการโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยอย่างน้อย 5 แห่งยืนยันมีกำลังผลิตเพียงพอต่อความต้องการทั้งระบบมีศักยภาพการผลิตได้ถึงเดือน 1 ร้อยล้านชิ้น ปัจจุบันมีสต็อกกว่า 2 ร้อยล้านชิ้น กระทรวงได้เร่งให้ผู้ประกอบการกระจายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไปยังภูมิภาคอย่างทั่วถึง
ใช้ยาแรงจับ-ปรับคนขาย โก่งราคาหน้ากากอนามัย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ ใยสังเคราะห์ และวัตถุดิบที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย และได้มีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อป้องกันการและกำหนดราคาซื้อขายให้เหมาะสม โดยในวันนี้ทางกรมการค้าภายใน ได้ประชุมเพื่อออกมาตรการร่วมกับกลุ่มผู้ขายสินค้าโมเดิร์นเทรด โดยได้มีข้อกำหนดให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ค้าปฏิบัติ คือ
1.ให้มีการแจ้งปริมาณการซื้อขายและการเก็บสต็อกสินค้าแก่กรมภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
2.การส่งออกสินค้าตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไปต้องขออนุญาตจากทางกรมทุกครั้ง
3.ทางกรมจะจัดตั้งศูนย์จัดสรรค์สินค้าเพื่อรองรับสินค้าจากผู้ผลิต ก่อนนำมาจัดสรร ให้กับผู้ที่จำเป็นก่อน เช่น หน่วยงานทางการแพทย์เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าขาดตลาด และการโก่งราคา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าควบคุมเกินราคาก็สามารถแจ้งเข้าไปได้ที่สายด่วนกระทรวงพาณิชย์ โทร 1569 โดยผู้ที่ทำผิดก็จะมีโทษจำคุก 7 ปี และโทษปรับสูงถึง 140,000 บาท
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว สั่งการเข้มคาดโทษ ...หากพบว่ามีการขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด หลังจากนี้ หากพื้นที่ใดยังคงมีการร้องเรียนในเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ผมจะถือว่าเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น