ปส.ปะทะเดือดแก๊งขนยานรก คนร้ายฮึดยิงสู้ก่อนหลบหนีเข้าป่า ไม่รอดถูกจับ จนท.เร่งขยายผล
logo ข่าววันใหม่

ปส.ปะทะเดือดแก๊งขนยานรก คนร้ายฮึดยิงสู้ก่อนหลบหนีเข้าป่า ไม่รอดถูกจับ จนท.เร่งขยายผล

ข่าววันใหม่ : ตำรวจ ปส. ปะทะเดือดแก๊งยาเสพติด อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขณะลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ยังจับชาวไต้หวัน ขณะลักลอบขนย ยานรก,ยาเสพติด,ยาบ้า,แก๊งขนยา,เชียงราย,เชียงใหม่,ปส,ตำรวจ,ปราบปรามยาเสพติด

2,169 ครั้ง
|
04 ก.พ. 2563
ตำรวจ ปส. ปะทะเดือดแก๊งยาเสพติด อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขณะลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ยังจับชาวไต้หวัน ขณะลักลอบขนยาเสพติดที่สนามบินสุวรรณภูมิ
 
ภาพนาทีตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ชุดสกัดกั้น ยิงปะทะเดือดแก็งค้ายาเสพติดสนั่นป่า ขณะลักลอบขนมาจากชายแดนเข้าสู่ประเทศไทย โดยเหตุดารณ์เกิดขึ้นขณะตำรวจลาดตระเวนตรวจสอบบริเวณสวนป่า บ้านห้วยน้ำขุ่น อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 6-7 คน สะพานกระสอบเดินสลับวิ่งอยู่ข้างถนน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหลายนัดจึงเกิดการปะทะกัน ก่อนที่กลุ่มบุคคลต้องสงสัยจะวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า 
 
ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่ พบยาบ้า 674,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบและกระเป๋าสะพาย ถูกโยนทิ้งไว้ตามเส้นทางที่หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมพื้นที่ จนสามารถจับกุมนายชิฟู เยเบียง สัญชาตเมียนมาร์ โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมาวางไว้ที่จุดนัดหมาย โดยได้ค่าจ้างเป้ ละ 15,000 บาท จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
ภาพขณะที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำกำลังเข้าจับ นายลี ชุน ฮุย และนายลี ชัย ปิง สัญชาติจีน-ไต้หวัน กลางสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณจุดตรวจผู้โดยสารเดินทางออกไปต่างประเทศ หลังได้รับรายงานจากตำรวจไต้หวันว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเฮโรอีนจากไทยไปไต้หวัน 
 
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงสืบสวนจนพบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวันเดินทางเข้ามาเพื่อลักลอบขนยาเสพติด เมื่อพบเป้าหมาย ทั้ง 2 คน ที่ด่านตรวจ จึงแสดงตัวเข้าจับและตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง ภายในพบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวนมากและแป้งหลายกระป๋อง เมื่อเปิดดูภายในพบเป็นเฮโรอีนจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ รวมน้ำหนัก 15 กิโลกรัม
 
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อขนยาเสพติดข้ามไปไต้หวัน หลังได้รับว่าจ้างจากกลุ่มนายทุนฝั่งไต้หวัน ทำมาแล้ว หลายครั้ง ทุกครั้งจะใช้วิธีซุกซ่อนในสิ่งของแตกต่างกันไป ก่อนจะมาถูกจับได้ครั้งนี้ เชื่อมีคนไทยร่วมขบวนการ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหา ทั้ง 2 คนเดินทางเข้ามาประเทศไทยหลายปีแล้ว โดยเดินทางปีละครั้ง แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาขนยาเสพติดกลับไปยังไต้หวัน 
 
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามนำยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลังจากนี้ตำรวจจะสอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียด เพื่อสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำความผิด ติดตามจับตัวมาดำเนินคดี
 
พลตำรวจโทวิสนุ ปราสาททอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังแถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในอีกหลายคดี โดยเฉพาะการจับกุมพัสดุต่างประเทศต้องสงสัยถูกส่งจากต้นทางประเทศโปรตุเกส ปลายทางจังหวัดชลบุรี พบยาอี หรือเอ็กซ์ตาซี่ ซุกซ่อนอยู่ในกล่องป้ายไฟ LED จำนวน 2,260 เม็ด เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ และขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือหญิงชาวไทย และชายชาวไนจีเรีย ก่อนขยายผล อีกคดีตำรวจตรวจสอบพัสดุต่างประเทศต้องสงสัยถูกส่งจากต้นทางประเทศเยอรมณี พบยาอี 130 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในลำโพงบลูทูธ และขยายผลจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 2 คน ก่อนนำตัวไปตรวจค้นห้องพักย่านสุขุมวิท พบยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งขณะที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ยังจับกุมนายหยีเวิ่ง กะรัตน์ และนายอภิชาติ กะรัตน์ พร้อมของกลางไอซ์ กว่า 3.25 กิโลกรัม  ยาบ้า 53,000 เม็ด  
 
โดยสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน ของเครือข่ายยาเสพติด จะลักลอบนำยาเสพติดและนำเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าบริเวณห้างสรรพสินค้าย่านบางกะปิ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมโดยในวันนี้สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญรวมทั้งหมด 10 คดี ผู้ต้องหา 20 คนของกลางยาบ้า 1,227,000เม็ด  ไอซ์ กว่า 9 กิโลกรัม ยาอี 8,060 เม็ด  เฮโรอีน 15 กิโลกรัม กัญชา 1,105 กิโลกรัม เคตามีน 60 ขวด มูลค่ากว่า 240 ล้านบาท
 
 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/LAq-KL7eNeU