รอง ผบ.ตร. เผย ทหารในพื้นที่ ถูกเรียกกลับต้นสังกัด ตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุ ส่วนอาวุธปืน ยัน ไม่ใช่ปืนประจำหน่วยราชการแน่นอน วอนประชาชนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เช็คกล้องหน้ารถ หากพบเบาะแสให้แจ้งตำรวจโดยด่วน! ขณะที่ ระดมกำลังชุดสืบลงพื้นที่เพิ่มเกือบร้อยนาย
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เผยความคืบหน้าคดีคนร้ายชิงทองภายในห้าง ที่ จ.ลพบุรี ว่า ขณะนี้ตำรวจมีการระดมกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ที่จะสืบสวนหาตัวร้่ายเป็นวงกว้าง ขณะนี้ มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีไปไกลหลายกิโลเมตรแล้ว หลักฐานจากที่เกิดเหตุพบคนร้ายยิงทั้งหมด 13 นัด กระสุนขนาด 9 มม. ยานพาหนะที่คนร้่ายใช้ในการหลบหนีเป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวคาดแดง ปี 62 โดยตั้งแต่ในคืนวันที่เกิดเหตุ ทุกหน่วยตั้งของทหาร ที่อยู่ใน จ.ลพบุรี ได้มีการเรียกทหารทุกนายกลับต้นสังกัด เพื่อตรวจสอบการเบิกอาวุธปืน การครอบครองปืน และยานพาหนะ
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่ออีกว่า อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ยืนยัน ว่าไม่ใช่ปืนประจำหน่วยของราชการ แต่สามารถครอบครองได้ทั้งคนที่เป็นราชการ และพลเรือน เพราะสามารถหาซื้อได้ คนร้ายมีความชำนาญ และมีทักษะในการใช้ปืน รวมไปถึงมีความรู้เรื่อง tactical ขณะนี้ อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ของชุดสืบสวน เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด
ซึ่งทางตำรวจอยากขอประชาสัมพันธ์ ประชาชนที่มีกล้องหน้ารถและอยู่ในระแวกใกล้เคียง พื้นที่ที่เกิดเหตุ ในเวลาก่อนเหตุและหลังเกิดเหตุ (ตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 ของวันที่ 9 มกราคม 2563) หากพบลักษณะรถต้องสงสัย ที่คล้่ายกับรถยนต์ของผู้ก่อเหตุ หรือพบบุคคลแต่งตัวลักษณะเหมือนคนร้าย ขอร่วมมือส่งคลิปวิดิโอจากกล้องหน้ารถ หรือ แจ้งเบาะแสให้ พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้โดยตรง หรือติดต่อที่เบอร์ 081-421-9249
ทั้งนี้ ตำรวจ ยืนยัน จะสามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายได้อย่างแน่นอน แต่ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน
+ อ่านเพิ่มเติม