วานนี้ เวลา 16 นาฬิกา 3 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปยังเรือนแพที่ประทับรับรอง บริเวณท่าวาสุกรี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งเป็นพระราชพิธีเบื้องปลาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงพระมาลาเส้าสูง ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าวาสุกรี โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา คณะองคมนตรี, และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โอกาสนี้ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือ
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ไปประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา โดยมีเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เป็นเรือพระที่นั่งรอง
สำหรับขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มีเรือพระราชพิธี 52 ลำ กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือพระที่นั่งทรง เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นเรือประดิษฐานพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เป็นเรือพระที่นั่งรอง และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ทั้ง 2 พระองค์ การจัดรูปแบบขบวนเรือ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ ริ้วสายกลาง เป็นเรือพระที่นั่ง ทั้ง 4 ลำ นอกจากนี้ ยังมีเรืออีเหลือง ซึ่งเป็นเรือของรองผู้บัญชาการขบวนเรือพระราชพิธี เป็นเรือกลองนอก และเรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือพระราชพิธี เป็นเรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจในส่วนริ้วสายใน ขนาบริ้วสายกลางเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้า และเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า, เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต, เรือรูปสัตว์ 8 ลำ ได้แก่ เรืออสุรวายุภักษ์ เรืออสุุรปักษี เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพน์ เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือครุฑเหินเห็จ และเรือครุฑเตร็จไตรจักร และปิดท้ายเรือสายใน คือ เรือเอกชัยเหินหาว และเรือเอกชัยหลาวทอง เป็นเรือคู่ชัก ส่วนริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค คือ การเห่เรือ หรือ การเห่เรือหลวง ซึ่งเป็นการขับร้องเพื่อให้จังหวะแก่พลฝีพาย ซึ่งมีทำนองแตกต่างกัน 3 แบบ คือ ขณะเริ่มออกเรือ และพายเรือตามน้ำ จะใช้ทำนอง "ช้าลวะเห่" , หากต้องการให้พายหนัก จังหวะเร็วจะใช้ทำนอง "มูลเห่" และเมื่อเรือใกล้ถึงที่ประทับจะใช้ทำนอง "สวะเห่" โดยบทเห่เรือ นิยมประพันธ์เป็นร้อยกรอง หรือในรูปของกลอนสด ซึ่งการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มีการประพันธ์กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติขึ้นใหม่ โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย และมีนาวาเอก ณัฐวัฏ อร่ามเกลื้อ ทำหน้าที่พนักงานเห่เรือ
ระหว่างที่ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เคลื่อนผ่านไปตามท้องน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายหลัก สายสำคัญของประเทศ มีพระบรมวงศานุวงศ์ รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จในเส้นทางตามจุดต่าง ๆ โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ พลับพลาที่ประทับบริเวณสวนสันติไชยปราการ , พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทอดพระเนตร ณ บริเวณสวนหลวงพระราม 8
ส่วนตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีประชาชนจำนวนมาก รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เพื่อชื่นชมพระบารมี และชมความวิจิตรงดงามของขบวนเรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ และนับเป็นภาพประวัติศาตร์ของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ เจ้าพนักงานราชูปโภค อัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 จากบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ไปประดิษฐานบนพระราชยานถม เตรียมเข้าริ้วขบวนราบยาตราไปยังพระบรมมหาราชวัง
จากนั้น เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ แล้วเสด็จเข้าพลับพลาที่ประทับรับรอง เพื่อทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์สำหรับยาตราขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง
เวลา 17 นาฬิกา 44 นาที เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เพื่อประทับพระราชยานพุดตานทอง เสด็จพระราชดำเนินโดยริ้วขบวนราบ กลับเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จไปยังพระบรมมหาราชวัง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชยานพุดตานทอง ที่เกยหน้าพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิฐ พันโท สมชาย กาญจนมณี ถวายพระแสงขรรค์ชัยศรี พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง ในฐานะผู้อำนวยการริ้วขบวนราบ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตยาตราริ้วขบวนราบ โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบ ในฐานะราชองค์รักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยานพุดตานทอง ออกจากท่าราชวรดิฐ ไปตามถนนมหาราช เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวา เข้าพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี ไปเทียบยังเกยหน้าพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
รวมระยะทางประมาณ 800 เมตร ใช้กำลังพลประมาณ 800 นาย โดยริ้วขบวนราบประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ขบวนหน้า เป็นขบวนนำ ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ หรือ ขบวนเสด็จ เป็นขบวนกลาง และขบวนหลังเป็นขบวนตาม โดยวานนี้เป็นการเสร็จสิ้นพระราชพิธีเบื้องปลาย เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 อย่างสมบูรณ์และสมพระเกียรติ ตามโบราณราชประเพณี และเป็นสิริมงคลกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ได้เห็นพระราชพิธีครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และขบวนราบ อันเป็นวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของไทย ซึ่งจะปรากฎให้เห็นที่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลก
พสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเมื่อวานนี้ ให้ความสนใจและมีความปลื้มปีติ โดยเฉพาะบริเวณสะพานพระราม 8 พสกนิกรหลายพันคนที่มาจับจองพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 และตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ทันทีที่เรือพระที่นั่งค่อยๆ เคลื่อนผ่าน ประชาชนที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ต่างก็บอกธงตราสัญลักษณ์และธงชาติไทย พร้อมกับเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังแซ่ซ้อง
นอกเหนือจากประชาชนชาวไทย ในจำนวนนี้ก็มีชาวต่างชาติกว่าร้อยคน ที่มาร่วมจับจองพท้นที่และชมพระราชพิธีอย่างใกล้ชิด อย่างเช่น ชาวแคนาดาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย บอกว่าพระราชพิธีครั้งนี้งดงามสมพระเกียรติ และตนเองก็รักพระบรมศานุวงศ์ทุกพระองค์มากๆ