สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิรายงานว่าพบมีผู้ป่วยได้รับพิษแบคทีเรียโบทูลิจากการกินหน่อไม้ปี๊บอัดถุงถูกหามส่งโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยมีอาการท้องเสียอาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หนังตาตกหายใจติดขัด กลืนลำบากและแขนขาอ่อนแรง มีอากาโคม่าแพทย์ต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาช่วยชีวิตในห้องไอซียูของโรงพยาบาลชัยภูมิจำนวน 2ราย ทราบชื่อผู้ป่วยภายหลังชื่อนางสาวนุชจริทร์ แสงชน อายุ 30 ปี และนางสาวเบญจวรรณ สมหวัง อายุ 20 ปี โดยแพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา พร้อมเฝ้าระวังโรคแทรกซ้อนตลอดเวลา
นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เผยว่าอาการของผู้ป่วยดังกล่าวคือโรคโบทูลิซึม(Botulism)เกิดจากสารพิษโบทูลินัม(Botulinumtoxin)ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทบริเวณส่วนปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ แม้มีปริมาณเพียงไม่ถึง1ไมโครกรัมและมีอันตรายถึงชีวิตภายใน18-36ชั่วโมง สารพิษนี้ถูกสร้างขึ้นโดยแบคทีเรียชนิดคลอสทริเดียมโบทูลินัม(Clostridiumbotulinum)ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ไม่มีออกซิเจน มักพบอยู่ในหน่อไม้ปี๊บที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานและมีการปนเปื้อนสปอร์ของเชื้อคลอสทริเดียมโบทูลินัมที่ทนต่ออุณหภูมิสูง100องศาเซลเซียสนาน 5นาที เมื่ออยู่ในปี๊บที่มีภาวะเหมาะสมสปอร์เหล่านั้นก็จะเจริญเติบโตและสร้างสารพิษออกมาปะปนอยู่ในหน่อไม้ปี๊บ
ทั้งนี้แพทย์ได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการรับประทานอาหารจำพวกหน่อไม้บรรจุปี๊บและบรรจุถุง ที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อคลอสตริเดียมโบทูลินัม ที่มักจะพบในอาหารกระป๋องพิษของเชื้อนี้จะทำให้เกิดอาการหนังตาตกพูดไม่ชัด ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อรุนแรงจนกระทั่งนำไปสู่การทำลายระบบทางเดินหายใจและเสียชีวิตในที่สุดหากจะรับประทานต้องต้มให้สุกในอุณหภูมิสูงถึง 120 องศา เพื่อแน่ใจว่าปลอดจากเชื้อโรคดังกล่าวหากพบผู้ป่วยดังกล่าวต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน