'ไพบูลย์' ชี้ การทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ส่วนใหญ่มาจากนักการเมืองและข้าราชการ ที่เสพติดอำนาจและผลประโยชน์ ขอทุกคนกล้าออกมาต่อสู้การทุจริตร่วมมือเป็นพลัง “อาสาสู้โกง”
วันที่ 6 ก.ย. องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นประเทศไทย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นซึ่งตรงกับวันที่ 6 กันยายนของทุกปี ภายใต้แนวคิดกระตุ้นให้เกิดการรวมพลังของคนไทยทุกภาคส่วน ที่เสียสละและร่วมมือเป็นพลัง “อาสาสู้โกง” ตามบทบาทและบริบทของตนเอง ซึ่งจะเป็นพลังสังคมที่ปฏิเสธการคดโกงชาติทุกรูปแบบและต่อสู้ไม่ให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม
โดยวันนี้มีองค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา นักวิชาการ ภาคประชาสังคม กลุ่มโซเชียลมีเดียสื่อมวลชน และกลุ่มศิลปิน รวมถึงตัวแทนจากพรรคการเมืองมาร่วมแสดงพลังเครือข่ายอาสาสู้โกงด้วย
ขณะที่ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อรวมพลังคนไทยอาสาสู้โกง โดยได้พูดตอนนึงถึงปัญหาทุจริตงบประมาณแผ่นดินว่า มีดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประเมินค่าความโปร่งใสของภาครัฐพบว่าของสิงคโปร์ มีความโปร่งใสถึง 85% ขณะที่ไทยมีความโปร่งใสเพียง 36% เท่านั้น
ซึ่งปัญหาการทุจริตในการบริหารงบประมาณแผ่นดิน ส่วนใหญ่ก็มาจากข้าราชการการเมือง และข้าราชการที่เสพติดอำนาจและผลประโยชน์ โดยสมรู้ร่วมคิดกับผู้ประกอบการเป็นการหาเงินทางลัดที่ทำให้รวยเร็ว และทำจนเป็นความเคยชินกลายเป็นเสพติด ไม่ต่างกับคนติดยาเสพติด
นอกจากนี้ยังมีเรื่องระบบอุปถัมภ์เข้ามาร่วมด้วย และจะเห็นได้ชัดเจนจากเวลามีคดีความคนที่ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่ก็มีแต่คนเหล่านี้ ที่ร่วมมือกับผู้ประกอบการแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากการบริหารงบประมาณแผ่นดิน แต่ทั้งหมดก็ต้องจบด้วยกระบวนการยุติธรรม
ทุกคนทราบดีว่าทุจริตไม่ดีอย่างไร แต่ไม่เคยคิดว่าจะจัดการอย่างไร เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตนเอง ปัญหาของเราคือมีแต่พูดแต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติเพราะขาดผู้นำ
องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นถือเป็นหนึ่งองค์กรที่กล้าออกมาต่อสู้กับทุจริต ทำเป็นตัวอย่างเพื่อขยายผลไปยังองค์กร หน่วยงาน และภาคประชาชน ให้เห็นถึงความสำคัญและกล้าออกมาต่อสู้ร่วมมือเป็นพลัง “อาสาสู้โกง” ไปด้วยกัน
+ อ่านเพิ่มเติม