ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้คงโทษจำคุก ชายชาวเนเธอร์แลนด์ ร่วมกันฟอกเงินที่มาจากการขายกัญชา 300 ล้านบาท และคงโทษจำคุกภรรยาชาวไทย 7 ปี 4 เดือน
วันที่ 27 ส.ค. ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ คุมตัว นายโจฮันเนส เพทรุส มาเรีย ฟานลาร์ โฮเวน(Johannes Petrus Maria van laarhoven) อายุ 59 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ และนางมิ่งขวัญ ฟาน ลาร์โฮเวน หรือนางมิ่งขวัญ แก่นอินทร์ อายุ 37 ปี ภรรยาชาวไทย มาฟังคำพิพากษาฎีกาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกัญชา 300 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่บุกจับกุมทั้งสองได้ที่บ้านพักบนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ในสนามกอล์ฟฟีนิกซ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อปี 2557 ตรวจยึดทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ได้จากการฟอกเงินมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท
คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกนายโจฮันเนส 103 ปี ส่วนนางมิ่งขวัญจำคุก 18 ปี ลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสอง 68 ปี 8 เดือน และ 12 ปี ตามลำดับ
ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เหลือจำคุกนายโจฮันเนส 75 ปี นางมิ่งขวัญ 11 ปี ลดโทษ 1ใน 3 เหลือจำคุก จำเลยทั้งสอง 50 ปี และ 7 ปี 4 เดือน อย่างไรก็ตามความผิด ฐานฟอกเงินจำคุก ได้ไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกนายโจฮันเนสไว้ 20 ปี
ซึ่งศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประเด็นที่จำเลยฎีกาว่า อัยการสูงสุดไม่มีอำนาจในการสอบสวนคดี หรือแต่งตั้งคณะหรือบุคคลใดมาทำการสอบสวนนั้น ประเด็นดังกล่าวศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ประเด็นกระทงความผิดของจำเลยทั้ง 2 นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้มีการโอนเงินจากสถาบันการเงินในยุโรป สู่สถาบันการเงินในประเทศไทยจำนวน 15 ครั้ง ถือเป็นการเปลี่ยนสภาพของเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิด ทั้งสิ้น 15 กระทง แม้ว่าภายหลังจำเลยมีการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร เพื่อไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์เพื่อปกปิดที่มาของเงินที่กระทำความผิด จำนวน 28 ครั้ง แต่ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเจตนาเดียวกันกับการโอนเงิน 15 ครั้งแรก
ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยที่ 1 มีความผิด 15 กระทง คงโทษจำคุก 20 ปี และจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วม 6 กระทง คงโทษจำคุก 7 ปี 4 เดือน
+ อ่านเพิ่มเติม