วันที่ 6 ส.ค. 62 ที่รัฐสภา เกียกกาย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงชี้แจงกรณี ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีการทุจริตสนามฟุตซอลว่า ได้ยื่นหนังสือทักท้วงต่อ ป.ป.ช. ไปแล้วหลังจากถูกชี้มูลความผิด เพราะหลักฐานสำคัญที่ ป.ป.ช.นำมาดำเนินคดีกับตนเป็นเพียงใบบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติเพิ่มปี2555 ที่ระบุเพียงว่า พรรคเพื่อไทยได้รับงประมาณ 2,588,420,000บาท และมีพรรคการเมืองที่ได้รับงบแปรญัตติดังกล่าวด้วยอาทิ พรรคชาติพัฒนา 140 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์ 925 ล้านบาท พรรคภูมิใจไทย และยังระบุว่าตนได้รับงบแปรญัตติดังกล่าว 300 ล้านบาท
นายวิรัชกล่าวว่า แต่จากที่ดูในเอกสารนี้พบว่าเป็นเพียงเอกสารลอยๆ ไม่มีการระบุที่มา และไม่มีการเซ็นชื่อรับรองว่าเป็นเอกสารจากหน่วยงานใด แค่มีชื่อตนเข้าไปปรากฏอยู่ก็ถูกนำไปชี้มูลความผิดแล้ว
“ผมขอยืนยันว่าไม่เคยได้รับงบแปรญัตตินี้เลย ป.ป.ช.เคยทำหนังสือสอบถามไปยังกมธ.พิจารณางบปี 2555 หรือเปล่าว่าได้จัดสรรงบแปรญัตตินี้ให้พรรคการเมืองต่างๆ และตัวผมหรือไม่ และได้ทำหนังสือไปสอบถามพรรคการเมืองที่มีรายชื่อในเอกสารหรือยังว่า ได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ช. เรียกผมไปชี้แจงเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็มีมติออกมาเลย”
ด้านนายทศพล เพ็งส้ม ทีมทนายความคดีทุจริตสนามฟุตซอลของนายวิรัช กล่าวว่า ทีมกฎหมายเตรียมฟ้องดำเนินคดีเอาผิดกับ ป.ป.ช.ตามมาตรา 157 ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญา และมาตรา172 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริต เนื่องจากเห็นว่า หลักฐานเรื่องการแปรญัตติงบที่ป.ป.ช.นำมาใช้เอาผิดนายวิรัชไม่ได้สอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ เป็นเอกสารลอยๆที่ไม่มีใครกล้าเซ็นรับรอง แต่กลับนำมาใช้เอาผิด รวมทั้งไม่เคยไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ได้มีการแปรญัตติงบไปให้หรือได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่
“ในเอกสารในสำนวนของป.ป.ช.ระบุชัดว่าพรรคเพื่อไทยได้รับวงเงิน2.5 กว่าพันล้าน จึงขอให้ปปช.ทำหนังสือไปถึงพรรคการเมืองเพื่อถามว่าได้งบตัวนี้หรือเปล่า และถามสำนักงบประมาณว่าใครเป็นคนทำได้มาอย่างไร และถ้ามีการดำเนินคดีกับนายวิรัชจริงเท่ากับว่าพรรคการเมืองทุกพรรคมีความผิดจริงตามพรบ.พรรคการเมืองม.72 ซึ่งต้องยุบพรรค ดังนั้นป.ป.ช.ต้องทำเรื่องส่งไปยังกกต. ถ้าไม่ทำเท่ากับละเว้นหน้าที่ ทางเราก็ต้องดำเนินคดี”
+ อ่านเพิ่มเติม