พปชร. จับมือ 5 พรรคแถลงร่วมตั้งรัฐบาล ยังรอ ปชป.-ภท.

2,303 ครั้ง

04 มิ.ย. 2562

แชร์ข่าวไปที่

วันที่ 4 มิ.ย. 62 ที่โรงแรมเดอะสุโกศล นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยกรรมการบริหาร และแกนนำพรรค นำแถลงข่าวการจับมืออีก 5 พรรคการเมืองแสดงเจตนารมณ์ในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย, พรรคชาติพัฒนา, พรรคพลังท้องถิ่นไทย, พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และพรรคประชาชนปฏิรูป

โดย นายอุตตม มั่นใจว่า รัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐจะมีเสถียรภาพ ทำงานรับใช้ประชาชน โดยยึดนโยบายของแต่ละพรรคที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และจัดสรรโครงสร้างบุคลากรในแต่ละหน่วยงาน

ส่วนการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยนั่น นายอุตตม ยังขอให้เวลากับ 2 พรรคดังกล่าวไปดำเนินการภายในพรรคให้เสร็จสิ้นก่อน และไม่กังวลกับข้อครหารัฐบาลจะขาดเสถียรภาพ เนื่องจาก เห็นว่าทุกคนตั้งใจทำงานให้ประเทศ

เช่นเดียวกับการตัดสินใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ที่นายอุตตม ย้ำว่า จะต้องรอกระบวนการภายในของ 2 พรรคการเมืองดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า พรรคพลังประชารัฐจะใช้เสียง ส.ส. 150 เสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จึงขอให้รอติดตามในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.)

ส่วนกรณีที่รัฐสภาในวันพรุ่งนี้จะมีการอภิปรายคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอุตตม เปิดเผยว่า ได้เตรียมการทุบประเด็นไว้แล้ว และมั่นใจว่า จะสามารถอธิบายได้ รวมถึงไม่เห็นความจำเป็น ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องแสดงวิสัยทัศน์ เนื่องจากในอดีตก็ไม่ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อรัฐสภา

นายอุตตม ยังกล่าวถึงเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้รัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ไม่เฉพาะจากพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงจะต้องรอการพิจารณาในอนาคต

ด้าน นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย ย้ำจุดยืนของพรรคว่าพร้อมสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เช่นเดียวกับนายไพบูลย์นิติตะวันหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่มั่นใจว่าพลเอกประยุทธ์ จะได้รับเสียงข้างมากมนรัฐสภา เพื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ เพราะพลเอกประยุทธ์ ถือเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมในช่วงเปลี่ยนผ่านนับจากนี้ พรรคฯ จึงพร้อมสนับสนุนเต็มที่อย่างไม่มีเงื่อนไข และมั่นใจว่า รัฐบาลชุดใหม่จะอยู่ในวาระครบ 4 ปีแน่นอน

ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาชี้แจงสาเหตุในการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐว่าเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นจำเป็นจะต้องมีรัฐบาลใหม่ในการแก้ไขปัญหาประเทศโดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ พร้อมยอมรับว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้มีหลายพรรคการเมือง ร่วมจัดตั้งรัฐบาล จึงจำเป็นจะต้องรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย ดังนั้น พรรคฯเห็นความจำเป็นดังกล่าว ที่จะต้องเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

แชร์ข่าวไปที่

พรรคพลังประชารัฐ

ร่วมรัฐบาล