ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวาน มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรัฐบาล พร้อมเปิดทางให้กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส และพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อให้เสียงรัฐบาลเกิน 300 เสียง ล่าสุดวันนี้ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้มาส่งหนังสือเทียบเชิญให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลแล้ว
เปิดหนังสือ เพื่อไทย เชิญ ปชป.ร่วมรัฐบาล
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาส่งหนังสือเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้รับหนังสือ
ทั้งนี้ในหนังสือเชิญมีเนื้อหาถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์มีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีอุดมการณ์ที่จะทำงานร่วมกันได้ จึงขอเรียนเชิญพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อร่วมกันบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนภายในของพรรคและโปรดส่งรายชื่อบุคคลที่เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีส่งมายังพรรคเพื่อไทย ผ่านทางเลขาธิการพรรคโดยด่วนต่อไป
เพื่อไทย อ้างจับมือ ปชป.ตั้งรัฐบาล ทำเพื่อชาติ
นายสรวงศ์ กล่าวว่า การเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยคัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ เป็นที่ตั้งว่า ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ที่มาดูแลพรรค มั่นใจว่า แนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน ส่วนโควตารัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่จะแต่งตั้งต่อไป
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทั้ง 2 พรรค หักหลังประชาชน เพราะที่ผ่านมาเคยพาประชาชนออกไปชุมนุมแล้วเกิดบาดเจ็บล้มตาย แต่สุดท้ายกลับมาจับมือกันตั้งรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกัน แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องเดินหน้าร่วมกัน ส่วนพี่น้องเสื้อแดงก็พูดคุยกันอยู่ และเห็นตรงกันว่าถ้าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมทุกคนเข้าใจได้ ขอให้ดูที่ผลงาน
ปชป.ขอบคุณ เพื่อไทย ลั่นถึงเวลาให้อภัยกัน
ด้านนายเดชอิศม์ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ และเห็นความสำคัญของพรรคในการที่จะช่วยกันดูแลประเทศ หลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม สส. คาดว่า จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) ยืนยันวันนี้ประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง มีแต่ความรักความเข้าใจ และการให้อภัยกัน ต้องเข้าใจว่า เหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมากับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ดังนั้นพอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ก็เป็นสิ่งที่ดีงาม
ส่วนกรณีที่กลุ่มของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายเดชอิศม์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้อาจมีความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ส่วนรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ต้องรอที่ประชุมพรรคก่อน
เดชอิศม์ แย้ม ปชป.ได้ 2 เก้าอี้รัฐมนตรี
นายเดชอิศม์ บอกว่า วันนี้ทราบข่าวว่า พรรคได้มา 2 เก้าอี้รัฐมนตรี ส่วนจะเป็นกระทรวงไหน เป็นรัฐมนตรีว่าการ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการนั้น เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และพรรคจะคัดใครขึ้นอยู่ในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และสส. ไม่อยากก้าวล่วง ส่วนที่มีข่าวว่า ตนได้ส่งประวัติรัฐมนตรีไปแล้วนั้น นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า ยังไม่ได้ส่ง เพราะซักถามลูกน้อง ปรากฏว่าไม่มีใครไปส่งประวัติสักคน
ปชป.นัดถกเคาะรายชื่อ 2 รมต.พรุ่งนี้
ขณะที่ นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรค คาดว่า จะประชุมกรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 29 ส.ค.เวลา 17.00 น.และประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค กับสส.พรรค เวลา 19.30 น. ซึ่งการประชุมมีวาระเดียว คือ การเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะเป็นไปตามข้อบังคับพรรคทั้งหมด คาดว่าน่าจะใช้เวลาการพิจารณาพอสมควร ส่วนชื่อบุคคลที่จะไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะเสนอไปกี่คน
ปชป.ส่ง เฉลิมชัย-เดชอิศม์ นั่ง รมต.
สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีการประชุม พรรคในวันพรุ่งนี้ คาดว่า น่าจะเป็นรายชื่อเดิมที่มีข่าวก่อนหน้านี้ คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มานั่งแทน พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พลเอก ประวิตร ที่หลุดจากโผครม. ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่หลุดจากโผครม.เช่นกัน
ส่วนการดึง สส.พรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาล จะดึงมาเฉพาะสส.กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส โดยจะเสนอชื่อให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม มาดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ แทนที่ ร้อยเอก ธรรมนัส ในโควตาคนนอก และมีปรับโผให้ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แทนนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ลูกชาย และนายอัครา พรหมเผ่า น้องชายร.อ.ธรรมนัส มาดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์
4 สส.ปชป.ค้านร่วมรัฐบาลจับกลุ่มคุยในสภาฯ
ซึ่งขณะที่นายสรวงศ์ เดินทางมาส่งหนังสือเชิญพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล ที่รัฐสภา ปรากฏภาพ 4 สส.จับกลุ่มพูดคุยกัน ประกอบด้วย 1.นายชวน หลีกภัย 2.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 3.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทั้ง 3 คน เป็นสส.บัญชีรายชื่อ และ4.นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา บุตรชาย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรค ซึ่งทั้ง4คนไม่เห็นด้วยต่อการที่พรรคจะเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มี สส. 25 เสียง โดยเสียงข้างมาก 21 เสียง พร้อมร่วมรัฐบาล มีเพียง 4 เสียงดังกล่าวที่ไม่เห็นด้วยในการร่วมรัฐบาล
พท.-ปชป. ปิดฉากขัดแย้ง 23 ปี
การจับมือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยถือว่า เป็นการสลายสีเสื้อเหลือง-แดง และสลายขั้วขัดแย้งอย่างแท้จริง หลังต่อสู้กันในอุดมการณ์ทางการเมืองมายาวนานกว่า 23 ปี ตั้งแต่ปี 2544 ที่พรรคไทยรักไทย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน หลังจากนั้นทั้ง 2 พรรคไม่เคยทำงานร่วมกันอีกเลย ฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาล อีกฝ่ายหนึ่งต้องเป็นฝ่ายค้าน
อีกทั้งปี 52-53 กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน เคยออกมาขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนมีการสลายม็อบเสื้อแดง ส่วนปี 56-57 เคยมีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เป็นแกนนำกลุ่ม กปปส.ออกมาขับไล่รัฐบาลเพื่อไทย
อดีตแกนนำ นปช.เข้าใจ เพื่อไทย จับมือ ปชป.
ในมุมของ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี มองว่า การจับมือตั้งรัฐบาลของ 2 พรรค เป็นความจำเป็น แม้พรรคประชาธิปัตย์ในยุคของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จะสลายม็อบคนเสื้อแดง แต่มองว่า ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว และไม่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์แล้ว อาจมีผลกระทบต่อฐานเสียงบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยต้องอธิบายถึงความจำเป็น และยํ้าว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนละกลุ่มกับแกนนำรุ่นเก่า อีกทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่มีส่วนร่วมในการสลายม็อบคนเสื้อแดง และต้องเห็นใจรัฐบาล ที่ต้องเพิ่มเสียงเพื่อความมั่นคงและวันนี้เราปิดสวิตช์ 3 ป.แล้ว เพราะพรรคพลังประชารัฐ ของพลเอกประวิตรก็ไม่ได้ร่วมรัฐบาล
นิพิฏฐ์ ซัดน้ำเน่า-น่ารังเกียจ ฉก สส.
ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้กลิ่นน้ำเน่าโชยมา การไปฉกสส.เขามาบางกลุ่ม ทิ้งบางกลุ่ม ในทางการเมืองเขาไม่ทำกัน เพราะทำให้พรรคการเมืองของเขาอ่อนแอ และอาจถึงขั้นแตกสลาย ถือเป็นการถอยหลังทางการเมืองของไทยอีกครั้ง ใครมีส่วนร่วมหรือร่วมมือและสยบยอมกับวิธีการอย่างนี้ ต่างน่ารังเกียจและน่าประนามทั้งสิ้น การแยกสลายพรรคการเมือง ไม่น่าจะเป็นความคิดของนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนรุ่นใหม่ แต่นายกรัฐมนตรีน่าจะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของนักการเมืองน้ำเน่าบางคน
พปชร.ทำใจ พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบอกว่า ความจริงพอจะทราบแนวทางอยู่แล้วว่า เขาไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับรายชื่อรัฐมนตรีที่เราเสนอ โดยพยายามสร้างเงื่อนไขอะไรบางอย่างขึ้นมา เมื่อมีมติออกมาแบบนี้ก็ชัดเจน เราก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านไป และเชื่อว่าคงคุยกับพรรคประชาชนได้ มองว่าการเมืองแบบดูด สส. ทำตามผลประโยชน์ที่ตกลงกัน เชื่อว่า สุดท้ายจะมีการขัดกัน และมีปัญหาในอนาคต เพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ส่วนเหตุผลที่ พลเอกประวิตร ไม่ไปลงมติโหวตให้ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯนั้น นายชัยวุฒิ บอกว่า ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ในวันดังกล่าวหัวหน้าพรรคติดภารกิจ ไปโหวตไม่ได้ แต่ สส.ของพรรค 39 เสียงไปโหวตให้หมด จึงคิดว่า ไม่น่าใช่สาระสำคัญในการไม่นำพรรคพลังประชารัฐเข้าไปร่วมรัฐบาล
ส่วน สส.ของพรรคพลังประชารัฐในฝั่ง ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคนั้น นายชัยวุฒิ ยังไม่มีการดำเนินการอะไร พลเอก ประวิตร ยังถือว่าทุกคนเป็นสมาชิกพรรค ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐจะอยู่อย่างนี้ไปก่อนอีกสักระยะ จะยังไม่ขยับอะไร
พปชร.โวย เพื่อไทย หักหลัง
ขณะที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวานิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า หลังจากนี้พรรคจะมีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐโหวตให้นางสาวแพทองธาร 39 เสียง ยกเว้นพลเอกประวิตร ติดภารกิจต้อนรับนักกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังมีมติให้ส่งชื่อรัฐมนตรีตามเดิม ไม่มีการไปเกาะเก้าอี้ขอหรือต่อรอง แต่พรรคเพื่อไทยกลับมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออก เกิดมาไม่เคยเห็นการโหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังกันทีหลัง ยืนยันว่า หลังจากนี้ไม่เอาคืน แต่ใช้กระบวนการกฎหมาย
เมื่อถามว่า อาการของ พลเอกประวิตร เป็นอย่างไร นายสามารถ กล่าวว่า ลุงป้อมอารมณ์ดี ไม่ได้เครียดอะไร และอยากจะเตือนให้พรรคร่วมรัฐบาลระวังตัวไว้ด้วย ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่แตก ส่วนจะขับ ร้อยเอก ธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ส่วนกรณีที่มีการมองว่า เป็นแผนปิดสวิตซ์ 3 ป. หรือไม่ นายสามารถ บอกว่า ปิดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะ พลเอก ประวิตร ยังเป็น สส.และแคนดิเดตนายกฯอยู่ และพลเอก ประวิตร ยังยืนยันว่าไม่ลาออก
บิ๊กป้อม ตั้ง วัน อยู่บำรุง คุม กทม.
เมื่อคืนวานนี้ (27 ส.ค.) นายสามารถ ยังโพสต์เฟซบุ๊กเป็นเอกสารคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ลงนามโดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 เรื่องมอบหมายผู้รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมอบหมายให้นายวัน อยู่บำรุง เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและการประสานงานกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35