(2 พ.ค.62) เมื่อเวลา 08.10 น. ร.ต.อ.กิตติพงษ์ บุญเศรษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ทำร้ายเจ้าทุกข์ ภายในร้านรับซื้ออัญมณีชื่อ ร้านศิริชัย เขตบางแค กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และกำลังสายตรวจ สน.เพชรเกษม ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่งตั้งติดริมถนนใหญ่ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านรับซื้อและจำนำทองรูปพรรณ เครื่องเพชร และอัญมณี เจ้าหน้าที่พบ นายศิริชัย อาศัยพาณิชย์ อายุ 60 ปี เจ้าของร้าน ในสภาพศีรษะแตกเลือดไหลอาบร่าง จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค ให้แพทย์ทำการรักษา
จากการสอบสวนเจ้าตัวในเบื้องต้นทราบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่กำลังเปิดร้านอยู่ลำพัง มีคนร้ายชาย 3 คน คนแรกสวมเสื้อคลุมผ้าร่มสีดำ หมวกนิรภัยเต็มใบสีแดง ใช้ผ้าปิดปาก คนที่สองสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาล ไม่สวมหมวกนิรภัย และคนที่สามสวมเสื้อคลุมสีออกน้ำเงิน ข้างหลังเสื้อมีอักษร ภาษาอังกฤษ YEEZUS ไม่สวมหมวนิรภัย ใช้อาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาด กับมีดยาวราวๆ 6 นิ้ว 1 เล่ม เข้ามารุมทำร้ายโดยใช้ด้ามปืนตีที่ศีรษะหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บขณะยืนอยู่ในเคาน์เตอร์หลังตู้โชว์สินค้าจากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันกวาดทรัพย์สินในตู้โชว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของหลุดจำนำและทรัพย์สินส่วนตัวของตนไปประกอบด้วยแหวนเพชร สร้อยข้อมือเพชร กำไลเพชร สร้อยคอเพชร จี้ทองกรอบเพชร นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง บัตรเครดิตแบงก์กสิกรไทย 2 ใบ บัตร ATM 2 ใบ เงินสดประมาณ 30,000 บาท รวมทั้งหมด 10 รายการ มูลค่าประเมินเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท พากันวิ่งหลบหนีออกจากร้านไป พอตนตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.วุฒิชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุได้วิทยุสั่งการให้กำลังสายตรวจสกัดจับคนร้ายแล้วแต่ยังไม่มีวี่แวว เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายทั้ง 3 คน ที่วางแผนมาเป็นอย่างดี ใช้รถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และทะเบียน เป็นยานพาหนะหลังก่อเหตุหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมขาออก โดยคนร้ายนั้นมีอาวุธเป็นมีด 1 เล่ม และวัตถุคล้ายอาวุธปืนยังไม่ทราบขนาด 1 กระบอก อาศัยช่วงเาที่เจ้าของกำลังเปิดร้านเพียงลำพัง เข้ามาก่อเหตุก่อนหลบหนีไป ซึ่งหลังจากนี้จะรอให้ผู้เสียหายรักษาตัวจนอาการดีขึ้นและจะเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งในส่วนของรูปพรรณทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปและมูลค่าความเสียหาย สำหรับแนวทางการสืบสวนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านและสถานที่ใกล้เคียงเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม