จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุด ป.ป.ส.ภาค 7 ร่วมกับ กำลังชุด ปส.ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร บุกเข้าตรวจค้นภายในมูลนิธิข้าวขวัญ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พร้อมจับกุมเจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิ หลังจากค้นพบของกลางต้นกัญชาสด 205 ต้น รวมทั้สารสกัดน้ำมันกัญชา โดยทราบว่าทั้งหมดเป็นของนายเดชา ศิริภัทร กรรมการบริหาร และประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ซึ่งของกลางกัญชาทั้งหมดทราบว่านายเดชา จะนำมาผลิตใช้เป็นยารักษาโรค จึงได้มีการนำเมล็ดกัญชามาปลูก เพื่อทดลองใช้ทางการแพทย์ จนส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ขณะที่นายเดชาเดินทางไปธุระต่างประเทศ และจะกลับมายังประเทศไทยในช่วงบ่ายของวันที่ 10 เม.ย. พร้อมเตรียมเข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจ นั้น
ความคืบหน้าวันที่ 10 เม.ย. 62 เมื่อเวลา 15.30 น. นายเดชา ศิริภัทร กรรมการบริหาร และประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ได้เดินทางจากเวียงจันทร์ สปป.ลาว ถึงสนามบินดอนเมือง โดยมีผู้มาต้อนรับและให้กำลังใจจำนวนมาก พร้อมชูป้าย savedecha
โดย นายเดชา กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่มาต้อนรับ และเสียใจที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาก่อนหน้านี้ได้ ทำให้ไม่สามารถยื่นขอประกันตัว และเดินทางไปรับตัวนายพรชัย ชูเลิศ เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญออกจากที่คุมขังด้วยตนเอง โดยยืนยันว่าทำในนามส่วนตัว มูลนิธิไม่เกี่ยวข้อง ส่วนที่ยังไม่ไปแจ้งยื่นขอนิรโทษกรรมการมีกัญชาเพื่อครอบครองทางการแพทย์ได้นั้น เพราะคิดว่ายังมีเวลาเหลือเพราะอยู่ในช่วงเวลา 90 วันจนถึงวันที่ 19 พ.ค.นี้ จึงมีเวลาอีกเป็นเดือน และอยู่ในระหว่างเตรียมเอกสารให้พร้อม แต่ไม่ทราบว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงเร่งรีบ ทั้ฃที่ตนก็ไม่อยู่ด้วย จึงคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์ต่อไป
นายเดชา กล่าวต่อว่า วันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.62) ตนและทีมทนายความจะเดินทางไปแสดงตัวต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ถนนดินแดง ในเวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากนั้นจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อกำหนดนัดหมายวันเข้าพบเพื่อสอบถามรายะเอียดทางคดีต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม